ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,912 ราย ประกอบด้วย
- ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 4,606 ราย
- จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 136 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 157 ราย
- ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 13 ราย โดยมาจากอิสราเอล 2 ราย (Test&Go กทม. 1 ราย), สหราชอาณาจักร 2 ราย (Test&Go ชลบุรี 1 ราย), เยอรมนี (Test&Go กทม.), สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (Test&Go กทม.), ฝรั่งเศส (Test&Go สมุทรปราการ), กาตาร์ (Test&Go กทม.), ตุรกี ประเทศละ 1 ราย และกัมพูชา 4 ราย (ช่องทางธรรมชาติ)
ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายด้วยการตรวจ ATK 1,646 ราย
- เสียชีวิต 33 ราย เป็นชาย 16 ราย หญิง 17 ราย อายุระหว่าง 30-97 ปี (อายุเฉลี่ย 75 ปี) โดยเป็นผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 24 ราย คิดเป็น 73% ส่วนอายุน้อยกว่า 60 ปี และมีโรคเรื้อรัง 7 ราย คิดเป็น 21% ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 2 ราย คิดเป็น 6%
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 2,130,641 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 5,844 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 20,880 ราย
จังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 685 ราย, นครศรีธรรมราช 414 ราย, สงขลา 312 ราย, ปัตตานี 209 ราย, สุราษฎร์ธานี 181 ราย, เชียงใหม่ 179 ราย, ชลบุรี 177 ราย, สมุทรปราการ 116 ราย, ขอนแก่น 103 ราย และยะลา 103 ราย
จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรวันที่ 2 ธ.ค. 64 มีจำนวนทั้งหมด 9,906 ราย เข้ามาในกลุ่มไม่ต้องกักตัว (Test&Go) 7,595 ราย, Sandbox 2,127 ราย, Quarantine 7 วัน 53 ราย, Quarantine 10 วัน 131 ราย
ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 264,439,993 ราย เสียชีวิต 5,249,487 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา 49,716,825 ราย อันดับ 2 อินเดีย 34,609,741 ราย อันดับ 3 บราซิล 22,118,782 ราย อันดับ 4 สหราชอาณาจักร 10,329,074 ราย และอันดับ 5 รัสเซีย 9,703,107 ราย ส่วนประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 24