น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแผนหลักการพัฒนาฟื้นฟูสภาพแวดล้อมคลองแสนแสบ ระยะเวลา 11 ปี (2564 - 2574) จำนวน 84 โครงการ วงเงินรวมทั้งสิ้น 82,563 ล้านบาท ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เสนอ ซึ่งเป็นการสนองพระบรมราโชบายในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่ทรงให้ความสำคัญกับการพัฒนาดูแลแหล่งน้ำลำคลอง
โดยแผนฉบับนี้ มุ่งแก้ปัญหาน้ำเสียในคลองแสนแสบที่เป็นปัญหาอย่างมาก น้ำเสียส่วนใหญ่ 70% เกิดจากกิจกรรมชุมชนบริเวณริมคลอง รองลงมาเกิดจากโรงงานและสถานประกอบการ ในปี 2563 มีปริมาณน้ำเสียที่ไม่ผ่านการบำบัดถูกปล่อยลงคลองแสนแสบและคลองสาขารวม 807,672 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน มีค่าเฉลี่ยความสกปรกหรือบีโอดี (BOD) อยู่ระหว่าง 6.9 -12.2 มิลลิกรัมต่อลิตร (แหล่งน้ำที่มีค่าบีโอดีมากกว่า 8 มิลลิกรัมต่อลิตร ถือเป็นแหล่งน้ำที่มีมลพิษอย่างรุนแรง)
"ปัญหาน้ำเสียในคลองแสนแสบ ไม่ได้ส่งผลกระทบเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบถึงแม่น้ำบางปะกงในจังหวัดฉะเชิงเทราด้วย เนื่องจากคลองแสนแสบมีความยาวตลอดสายประมาณ 74 กิโลเมตร อยู่ในเขตกรุงเทพฯ 47.5 กิโลเมตร และจังหวัดฉะเชิงเทรา 26.5 กิโลเมตร" น.ส.รัชดา ระบุ
ขณะที่วิสัยทัศน์ของแผนพัฒนาฟื้นฟู คือ เพื่อให้คลองแสนแสบกลับมามีระบบนิเวศอยู่ในเกณฑ์ดี มีระยะเวลาดำเนินการ 11 ปี แบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะเร่งด่วน (พ.ศ.2564) ระยะกลาง (พ.ศ.2565 - 2570) และระยะยาว (พ.ศ.2571 - 2574) ซึ่งจะดำเนินการโดย 8 หน่วยงาน ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กรมชลประทาน จังหวัดฉะเชิงเทรา องค์การจัดการน้ำเสีย กรมเจ้าท่า กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ และกรมโรงงานอุตสาหกรรม
โดยจะขับเคลื่อนภายใต้ 5 เป้าประสงค์ คือ 1. การเสริมสร้างความปลอดภัยในการสัญจรทางน้ำของประชาชน 2. การปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์บริเวณคลองแสนแสบ 3. การแก้ไขปัญหามลภาวะและคุณภาพน้ำในคลองแสนแสบ 4. การป้องกันปราบปราม การบุกรุกทำลายทรัพยากรในคลองแสนแสบ 5. การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในคลองแสนแสบ รวม 84 โครงการ อาทิ โครงการก่อสร้างระบบรวบรวมน้ำเสีย โครงการก่อสร้างโรงบำบัดน้ำเสีย, โครงการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย, โครงการก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กข้ามคลองแสนแสบ, โครงการเดินเรือคลองแสนแสบส่วนต่อขยาย ระยะทาง 10 กิโลเมตร, โครงการต่อเรือไฟฟ้า 12 ลำ และการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางน้ำ เป็นต้น
น.ส.รัชดา กล่าวว่า แหล่งที่มาของงบประมาณแผนพัฒนาฟื้นฟู รวม 82,563 ล้านบาท มาจาก 1. งบประมาณแผ่นดิน 81.40% 2. งบ กทม. 3.50% และ 3.เงินจากเอกชนร่วมลงทุน (PPP) 15.10%
สำหรับประโยชน์ที่จะได้รับจากแผนพัฒนาฟื้นฟู อาทิ 1) แก้ไขปัญหามลภาวะและคุณภาพน้ำในคลองแสนแสบอย่างครบวงจร สร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียรวม 39 แห่ง รองรับการบำบัดน้ำเสียในคลองแสนแสบได้ 1,364,525 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
2) เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในคลองแสนแสบ โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ สามารถเร่งการระบายน้ำผ่านอุโมงค์ระบายน้ำได้ 30 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และเขื่อนป้องกันตลิ่ง 33.32 กิโลเมตร ช่วยเพิ่มพื้นที่ที่ได้รับการป้องกันน้ำท่วม 96,875 ไร่ ส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา มีสถานีสูบน้ำ ประตูระบายน้ำ เครื่องสูบน้ำและปรับปรุงคลอง ช่วยให้คลองระบายน้ำได้ 60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ช่วยเพิ่มพื้นที่ที่ได้รับการป้องกันน้ำท่วม 15,625 ไร่
3) พัฒนาระบบขนส่งและความปลอดภัยทางน้ำ มีท่าเทียบเรือเพิ่มขึ้นครอบคลุมคลองแสนแสบใน กทม. ทั้งสาย โดยใช้เรือไฟฟ้ารองรับการใช้บริการ 800 - 1,000 คนต่อวัน พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิดในท่าเรือ