นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนว่า ขณะนี้พบไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย เนื่องจากมีการเปิดประเทศให้คนสัญจรไปมา แต่มีมาตรการและระบบตรวจสอบ โดยผู้เข้ามาอย่างถูกต้องทางท่าอากาศยานจะต้องมีผลตรวจ RT-PCR ก่อนขึ้นเครื่อง 72 ชั่วโมง มาถึงประเทศไทยต้องตรวจซ้ำ โดยยืนยันว่าจะไม่ลดมาตรฐานการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศตามช่องทางที่ถูกกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่พบยังคงเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และแนวโน้มของอาการป่วยไม่น่าจะรุนแรงเท่าสายพันธุ์ที่เคยพบมา
การที่ตรวจจับได้ หมายความว่าระบบการตรวจสอบของเราทำงานได้ดี คนที่ติดเชื้อโอมิครอนจะถูกกักตัว และเข้าสู่ระบบการรักษา ซึ่งคนต่างชาติจะมีประกันสุขภาพวงเงิน 5 หมื่นเหรียญสหรัฐรับผิดชอบ ส่วนคนไทยใช้สิทธิรักษาตามระบบหลักประกันสุขภาพ ขณะที่การลักลอบเข้าผิดกฎหมาย ฝ่ายความมั่นคงจะดูแลอย่างเต็มที่
นายอนุทิน เชื่อว่าวัคซีนที่ประเทศไทยฉีดให้สามารถป้องกันโอมิครอนได้ ซึ่งโอมิครอนยังไม่ได้รุนแรงมากไปกว่าเชื้อสายพันธุ์อื่น และกรมควบคุมโรคกำลังเร่งรณรงค์ให้ประชาชนมารับวัคซีนเข็มกระตุ้น ซึ่งมีวัคซีนเพียงพอ โดยผู้ที่ฉีดวัคซีนเชื้อตาย 2 เข็ม หรือแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม เมื่อช่วงกันยายน สามารถมารับเข็มกระตุ้นได้เลย โดยจะมีการแจ้งเตือนประชาชนให้มารับ เนื่องจากมีข้อมูลอยู่แล้ว และกรมควบคุมโรคจะกระจายวัคซีนออกไปให้เร็วที่สุด
สำหรับการจัดงานเทศกาลปีใหม่ที่มีการรวมตัวมากกว่า 1 พันคน ต้องใช้มาตรการ COVID Free Setting ผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงานต้องฉีดวัคซีนครบโดส และต้องตรวจ ATK ก่อนเข้าร่วม เพื่อเฝ้าระวังอย่างสูงสุด ส่วนการจัดงานที่ต่ำกว่า 1 พันคน ผู้เข้าร่วมงานต้องมีผลวัคซีนครบโดส และที่สำคัญ ทุกคนยังต้องคงมาตรการป้องกันตนเองสูงสุดตลอดเวลา ทั้งการใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง และล้างมือ ถ้าทำตามมาตรการเหล่านี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาที่เกินความควบคุม ยืนยันว่ามาตรการไม่ได้ตึงจนเกินไปและจะช่วยให้ทุกคนปลอดภัย
ส่วนเรื่องการดื่มสุราช่วงปีใหม่ นายอนุทิน ย้ำว่าอนุญาตแค่เพียงวันเดียว คือ ช่วงคืนสิ้นปีจนถึงเวลา 01.00 น. ของวันที้ 1 มกราคม 2565 ไม่ใช่ทำได้ทุกวัน ต้องขอความร่วมมือประชาชนเฉลิมฉลองด้วยความตระหนักรู้