ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,537 ราย ประกอบด้วย
- ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 3,293 ราย
- จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 45 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 182 ราย
- ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 17 ราย มาจากอียิปต์ เม็กซิโก ตุรกี นอร์เวย์ บังกลาเทศ เดนมาร์ก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คาซักสถาน ประเทศละ 1 ราย สหรัฐอเมริกา 2 ราย และ สหราชอาณาจักร 5 ราย
ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายด้วยการตรวจ ATK 1,080 ราย
- เสียชีวิต 41 ราย เป็นเพศชาย 21 ราย เพศหญิง 20 ราย อายุเฉลี่ย 75 ปี (อายุระหว่าง 24-93 ปี) แยกเป็น อายุ 60 ปีขึ้นไป 33 ราย คิดเป็น 80% อายุน้อยกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรัง 6 ราย คิดเป็น 15% และไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 2 ราย คิดเป็น 5%
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 2,185,497 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 5,459 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 21,327 ราย
จังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 578 ราย, นครศรีธรรมราช 208 ราย, ชลบุรี 166 ราย, สงขลา 137 ราย, สมุทรปราการ 128 ราย, สุราษฎร์ธานี 89 ราย, ประจวบคีรีขันธ์ 78 ราย, พัทลุง 77 ราย, ปัตตานี 74 ราย และเชียงใหม่ 65 ราย
สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรวันที่ 16 ธ.ค. 64 มีจำนวนทั้งหมด 11,060 ราย เข้ามาในกลุ่มไม่ต้องกักตัว (Test&Go) 9,568 ราย, Sandbox 1,256 ราย, Quarantine 7 วัน 61 ราย, Quarantine 10 วัน 157 ราย และ Quarantine 14 วัน 18 ราย และขณะนี้ผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน ยืนยันแล้ว 14 ราย โดยส่วนใหญ่เข้ามาในกลุ่มไม่ต้องกักตัว (Test&Go)
ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 273,218,485 ราย เสียชีวิต 5,352,581 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา 51,435,652 ราย อันดับ 2 อินเดีย 34,721,174 ราย อันดับ 3 บราซิล 22,204,941 ราย อันดับ 4 สหราชอาณาจักร 11,097,851 ราย และอันดับ 5 รัสเซีย 10,131,646 ราย ส่วนประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 24