พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค.นัดพิเศษบ่ายวันนี้มีคำสั่งให้ยกเลิกการใช้มาตรการ Test&Go หลังจากพบผู้ที่เดินทางเข้ามาติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จากนี้ผู้ที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทยโดยจะต้องเข้าสู่มาตรการกักตัวเพื่อรอยืนยันผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR
ส่วนผู้อยู่ระหว่างการเดินทางเข้ามาในขณะนี้ หรือเรียกว่ากลุ่มค้างท่อจะมีการปรับมาตรการให้เหมาะสม
ทั้งนี้ ศบค.จะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งในวันที่ 4 ม.ค.65 เพื่อปรับมาตรการต่อไป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ฝ่ายแพทย์เชื่อว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้ แม้ว่าจะแพร่กระจายได้เร็ว แต่ยังรักษาได้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.ได้มีการหารือถึงมาตรการรับมือสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอปฯ Thailand Pass ไว้แล้วราว 2 แสนคน ซึ่งได้รับอนุมัติแล้ว 1.1 แสนคน ส่วนอีก 9 หมื่นคนอยู่ระหว่างพิจารณา ซึ่งที่ประชุมมีข้อสรุปว่าให้เดินทางได้ตามแผน โดยจัดระบบรองรับเข้มข้นขึ้น จะต้องมีการตรวจ RT-CPR เพิ่ม 2 ครั้งในวันที่ 1 และวันที่ 7 หากสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ก็จะพิจารณาปรับมาตรการที่เหมาะสม
"นายกฯ เรียกประชุม ศบค. ทันทีเพื่อนำเข้า ครม. คิดว่าเรื่องนี้รัฐบาลตอบสนองได้รวดเร็ว หลังปีใหม่จะประเมินสถานการณ์อีกที ส่วนเรื่องอื่นอะไรที่ไม่บอกก็ให้ผู้ว่าฯ และ สสจ.หรือผู้ว่าฯ กทม.เป็นผู้กำกับดูแลเหมือนเดิม ส่วนเรื่องล็อกดาวน์ จะพิจารณาเป็นด่านสุดท้าย" นายอนุทิน กล่าว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งรัดเรื่องการให้บริการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ซึ่งกระทรวงฯ จะเร่งกระจายวัคซีนให้ทั่วถึงทุกพื้นที่ และขอให้แต่ละพื้นที่วางมาตรการป้องกันการระบาดเป็นกลุ่มก้อน