โฆษก ตร.เตือนเมาแล้วขับ โทษหนักจำคุก 10 ปี พร้อมตั้งด่านตรวจจุดสกัดเข้มข้น

ข่าวทั่วไป Friday December 31, 2021 17:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ในห้วงเทศกาล ปีใหม่ 2565 อาจมีพี่น้องประชาชนเดินทางท่องเที่ยว หรือกลับภูมิลำเนา ในจังหวัดต่าง ๆ บางท่านอาจจะ ดื่มสุราแล้วขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ทำให้เกิดอุบัติเหตุ จนเป็นอันตรายร้ายแรงกับตนเองและผู้อื่นได้

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด เพื่อตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีการจับกุมผู้กระทำความผิดฝ่าฝืนกฎหมาย อย่างเข้มข้น จึงอยากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนว่า การขับขี่รถ ขณะเมาสุรา เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุ จนเป็นอันตรายต่อตนเองและผู้อื่นในบางครั้งอาจร้ายแรงถึงขึ้นเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีความผิดตามกฎหมายอีกด้วย

พระราชบัญญัติจราจร พ.ศ.2522

มาตรา 43 (2) ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น

มาตรา 160 ตรี ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 43 (2) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 100,000 บาท และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 6 ปี และปรับตั้งแต่ 40,000 บาท ถึง 120,000 บาท และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 60,000 บาท ถึง 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอแสดงความห่วงใยกับพี่น้องประชาชน ไม่ขับขี่รถในขณะเมาสุรา หรือของเมาอย่างอื่น เพื่อลดความสูญเสีย และอุบัติเหตุบนท้องถนน ขอให้พี่น้องประชาชนเดินทาง อย่างปลอดภัย มีความสุขกับเทศกาลปีใหม่ 2565 และหากท่านใดพบการกระทำความผิด ขอให้แจ้งไปยัง สายด่วน 191 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ