นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.64 - 3 ม.ค.65 สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในทุกพื้นที่อยู่ในระดับดีถึงดีมาก เนื่องจากสภาพอากาศที่เปิดมากขึ้น ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงเหนือที่มีกำลังแรงขึ้น แต่ในช่วงวันที่ 4 - 5 ม.ค.65 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล อาจมีแนวโน้มของระดับฝุ่นละอองที่สูงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่ง และลมอ่อน ร่วมกับการจราจรที่เพิ่มขึ้นหลังเดินทางกลับจากการหยุดยาวในช่วงปีใหม่ ประชาชนจึงควรติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศอย่างใกล้ชิดก่อนออกจากบ้าน
หากค่า PM2.5 อยู่ในช่วง 51-90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเท่ากับค่า AQI ที่ 101-200 ถือว่าอยู่ในระดับเกินมาตรฐานและเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) แต่หากพบค่า PM2.5 ที่สูงกว่า 91 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขึ้นไป ซึ่งเทียบเท่า AQI ที่สูงกว่า 201 ขึ้นไป อยู่ในระดับ มีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) ควรปฏิบัติตนตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
จากผลการสำรวจอนามัยโพลเดือนธ.ค.64 พบว่า ประชาชน 80% มีความกังวลต่อสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 โดย 67% กังวลผลกระทบต่อสุขภาพเด็กในระยะยาว และ 58% คิดว่าทำให้โรคประจำตัวมีอาการรุนแรงมากขึ้น สำหรับในส่วนการเตรียมตัวดูแลสุขภาพตนเองและคนในครอบครัว ช่วงก่อนเกิดปัญหาฝุ่น PM2.5 พบว่า 84% เตรียมหน้ากากป้องกันฝุ่น, 75% ดูแลสุขภาพให้ร่างกายแข็งแรง, 63% ทำความเข้าใจระดับค่าสี PM2.5 และปฏิบัติตามคำแนะนำ ส่วนการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ประชาชนกว่า 82% ต้องการให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ขณะที่ 70% ให้แจ้งเตือนสถานการณ์ และสื่อสารคำแนะนำด้านสุขภาพล่วงหน้า และ 58% ให้ตรวจรถที่มีควันดำ ดังนั้น การใช้บริการขนส่งสาธารณะแทนการใช้รถยนต์ส่วนตัว ก็ช่วยลดการเพิ่มปริมาณฝุ่นได้อีกทางหนึ่งด้วย