นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นไปตามที่ สธ.ได้เคยคาดการณ์ไว้ โดยฉากทัศน์ของการคาดการณ์มาตรการป้องกันควบคุมโรคไตรมาส 1/65 ปัจจุบันมองแนวโน้มเป็นฉากทัศน์ที่ 1 คือ Least Favourable หรืออัตราการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้นจากการระบาดของโอมิครอนในประเทศ โดยคาดการณ์ว่าจะมีผู้ติดเชื้อสูงสุดอยู่ที่ 30,000 รายต่อวัน คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการควบคุมสถานการณ์ 3-4 เดือน
วันนี้ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อ 5,775 ราย รักษาหาย 2,673 ราย และเสียชีวิต 11 ราย ภาพรวมผู้ป่วยอาการหนักและเสียชีวิตลดลง แต่มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการเข้าไปใช้บริการในสถานที่เสี่ยง ร้านอาหารกึ่งผับ การจัดกิจกรรมรวมกลุ่มคน เช่น งานเลี้ยง งานบุญทางศาสนา ที่อาจไม่ได้ระวังเพียงพอทำให้เกิดการระบาด โดยวันนี้มีจังหวัดที่ติดเชื้อเกินร้อยรายเพิ่มเป็น 11 จังหวัด จ.ชลบุรี มีการติดเชื้อสูงสุด 769 ราย ตามด้วย สมุทรปราการ 484 ราย และ กทม. 454 ราย
ทั้งนี้ ภาพรวมถือว่าเข้าสู่การระบาดอีกระลอก ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ฉากทัศน์ที่มีการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งแม้ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย แต่ต้องเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้มีการติดเชื้อเพิ่มรวดเร็วเกินไปจนเป็นปัญหาต่อระบบสาธารณสุข
"สถานการณ์การแพร่ระบาดในขณะนี้ เป็นไปตามเส้นสีเทา หรือเฝ้าระวังในระดับที่ค่อนข้างรุนแรง จึงต้องมีการควบคุมให้เร็วขึ้น เป็นสัญญาณตื่นตัวให้ประชาชนทราบว่า ขณะนี้มีการระบาดหนักแล้ว ส่วนการเสียชีวิต ขณะนี้เป็นไปตามเส้นสีเขียว หรือระดับต่ำสุด แสดงให้เห็นว่าการดูแลรักษาผู้ป่วยยังสามารถทำได้ดีอยู่" นพ.เกียรติภูมิ กล่าว
สำหรับปัจจัยการแพร่ระบาด ส่วนใหญ่มาจากสถานที่ปิดที่ประชาชนไปรวมตัวกัน เช่น ร้านอาหารกึ่งผับ งานเลี้ยง งานบุญ รวมทั้งการเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงปีใหม่ ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ขณะนี้การระบาดรุนแรงมากขึ้น กระทรวงสาธารณสุขจึงเพิ่มระดับการเตือนเป็นระดับที่ 4 Considerable (ปิดสถานที่เสี่ยง) ที่อาจมีมาตรการเพิ่มเติมที่เคร่งครัดมากขึ้น มีการชะลอการเดินทาง เช่น ทำงานที่บ้าน หรือชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด และลดการรวมตัวกัน เพื่อช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อ
"ประชาชนต้องปฎิบัติตามมาตรการ VUCA โดยการเร่งฉีดวัคซีน ล้างมือ ใส่หน้ากาก ป้องกันตนเองตลอดเวลา และลดการรวมตัวกัน ช่วยกันชะลอการแพร่กระจายเชื้อให้ได้มากที่สุด" นพ.เกียรติภูมิ กล่าว
ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในวันนี้ได้มีการยกระดับการเตือนภัยโควิด-19 เป็นระดับ 4 โดยจะขอความร่วมมือจากประชาชนในการปฎิบัติ ดังนี้ ให้ทุกคนงดรับประทานอาหารร่วมกัน งดดื่มสุราในร้าน งดเข้าสถานที่เสี่ยงทุกประเภท, หลีกเลี่ยงใกล้ชิดผู้อื่นนอกบ้าน งดร่วมกิจกรรมกลุ่ม, งดโดยสารขนส่งสาธารณะข้ามพื้นที่ หรือจังหวัดทุกประเภทโดยไม่จำเป็น และงดการเดินทางไปต่างประเทศ รวมทั้งเข้าประเทศต้องมีการกักตัว
สำหรับสถานที่เสี่ยง คือ สถานที่ที่สิ่งแวดล้อมมีระบบระบายอากาศไม่ดี มีการรวมตัวจำนวนมาก และมีการทำกิจกรรมที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย เช่น ร้านอาหารกึ่งผับ หรืองานแสดงดนตรี เป็นต้น ทั้งนี้ โรงเรียนยังไม่ถือว่าเป็นสถานที่เสี่ยง เนื่องจากยังมีมาตรการรองรับที่เพียงพอ
ส่วนในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมของคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ในเรื่องการปรับมาตรการและปรับระดับโซนสีของพื้นที่ต่างๆ เพิ่มเติม