นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังติดตามความพร้อมของโรงพยาบาลสนามเลิดสินว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้เตรียมความพร้อมรองรับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น รวมถึงกำหนดมาตรการต่างๆ ให้มีความสอดคล้องและไม่กระทบกับระบบบริการทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขปกติ โดยผู้ติดเชื้อที่มีอาการจะมีโรงพยาบาลสนามรับดูแล หากอาการหนักจะส่งตัวไปยังโรงพยาบาล ส่วนผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ หรืออาการไม่มาก จะมีระบบ Home Isolation (HI) และ Community Isolation (CI) รองรับ
ปัจจุบัน โรงพยาบาลสนามเลิดสิน ให้การดูแลผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียวและเหลืองได้ 191 เตียง ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อรักษาอยู่ 82 ราย เป็นชาย 32 ราย หญิง 45 ราย เด็กชาย 1 ราย เด็กหญิง 4 ราย
สำหรับโรงพยาบาลสนามหลายแห่งที่ปิดไปแล้ว ได้ทยอยเตรียมความพร้อมให้เป็น Community Isolation หากมีความจำเป็นต้องยกระดับสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีพื้นฐานการดูแลอยู่แล้ว โดยมีโรงพยาบาลในสังกัดเป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายสนับสนุน เช่น สังกัดกรมการแพทย์ มีโรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี สถาบันประสาทวิทยา สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เป็นต้น โดยขณะนี้โรงพยาบาลสนามยังมีเตียงเพียงพอ สามารถรับผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียวและสีเหลืองเข้ามาดูแลได้
นอกจากนี้ ยังมีสถาบันทันตกรรมดูแลผู้ติดเชื้อที่เข้าระบบ Home Isolation โดยจัดเวชภัณฑ์ ส่งอาหารให้ถึงบ้าน จากประสบการณ์ที่ผ่านมา มั่นใจว่าจะมีความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ได้ และประชาชนส่วนใหญ่มีความรู้และตระหนักเกี่ยวกับโรคนี้เป็นอย่างดี
ส่วนยาฟาวิพิราเวียร์หรือยารักษาอื่นๆ ที่มีความจำเป็น ขณะนี้ยังมีเพียงพอ นอกจากนี้ ยังให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ซึ่งมีสารตั้งต้นยาฟาวิพิราเวียร์ และได้รับการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว เตรียมการผลิตยาเพื่อดูแลผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นด้วย ยืนยันว่าไม่มีปัญหายาขาดแคลน
"จากรายงานพบว่าขณะนี้ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว คาดว่าอาการจะไม่รุนแรงจนถึงขั้นเข้า ICU หรือเสียชีวิต แสดงให้เห็นว่าวัคซีนสามารถป้องกันอาการรุนแรง และเสียชีวิตจากโควิด-19 ได้ อย่างไรก็ตาม แม้จะฉีดวัคซีนแล้วขอให้ทุกคนใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงสถานที่แออัดหรือมีการรวมตัวของคนจำนวนมาก จะช่วยให้เกิดความปลอดภัยจากโควิด 19 ทุกสายพันธุ์" นายอนุทิน กล่าว