นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการรับมือสถานการณ์โควิด-19 ในขณะนี้ ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศข้อปฎิบัติไปยังนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และผู้อำนวยโรงพยาบาลทุกแห่ง ต่อวิธีการรับผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งในสถานพยาบาล และการรักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation) ซึ่งมีการเตรียมการไว้ก่อนแล้ว และมีการคาดการณ์ว่า หลังเทศกาลปีใหม่ และโควิดสายพันธุ์โอมิครอนจะทำให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นระบบสาธารณสุขเตรียมรับสถานการณ์นี้ไว้แล้ว หากใช้มาตรการทุกอย่างให้ทั่วถึง และได้รับความร่วมมือจากประชาชน รวมถึงการได้รับวัคซีน และปฎิบัติตามมาตรการต่างๆ จะทำให้จากการที่เคยประเมินว่าหากไม่มีมาตรการใดๆ อาจทำให้มีผู้ติดเชื้อถึง 3-4 หมื่นคน ก็จะลดลงมา
ทั้งนี้ จากการประเมินตัวเลขผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยหนัก ผู้เสียชีวิต ล่าสุด โดยเฉพาะผู้เสียชีวิตไม่มากขึ้นเหมือนที่ผ่านมา ก็ถือว่าสถานการณ์ดีขึ้น ส่วนการให้วัคซีนเข็มที่ 3 ถือเป็นการบูสเตอร์ และเป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลที่ต้องการฉีดให้ประชาชนให้มากที่สุด เวลานี้เดินหน้าไปแล้วกว่า 8 ล้านโดส และทยอยฉีดให้กับประชาชนไปแล้ว
ส่วนกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ออกมาประกาศว่าจะฟ้องร้องเอาผิดหน่วยงานรัฐ หรือผู้ที่เปิดเผยข้อมูลการฉีดวัคซีนของนายธนาธรนั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนที่ฉีดวัคซีนไม่ได้รั่ว และข้อมูลดังกล่าวก็ไม่ได้ถือว่าเป็นความลับ เมื่อกรอกหมายเลข 13 หลักในหมอพร้อมก็จะพบข้อมูลนี้ ซึ่งก็ไม่ควรมองว่านายธนาธรเป็น VIP หรือพิเศษกว่าคนอื่น และนายธนาธร ก็มารับวัคซีนเข็มแรกตามกำหนดปกติตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 ซึ่งประชาชนทั่วไปเริ่มฉีดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ดังนั้น ขออย่านำเรื่องนี้มาเป็นประเด็น
นายอนุทิน ย้ำว่ากระทรวงสาธารณสุขในยุคของตน มีสโลแกน "รักษาทุกที่ VIP ทุกคน" ซึ่งประชาชนคนไทยทุกคน สำหรับกระทรวงสาธารณสุขคือ VIP อย่าเอาประเด็นนี้มาเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งนายธนาธร ก็เพิ่งติดโควิด ถือว่ามีภูมิตามธรรมชาติแล้ว จากนั้นค่อยมาฉีดเข็มที่ 4 ตามหลังคนอื่นได้