นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) ในฐานะประธานคณะกรรมการ MIU กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในประเทศไทยนั้น จากข้อมูลทางสถิติที่ได้รับมาจนถึงวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา สิ่งที่น่ากังวลคือ เป็นสายพันธุ์ที่มีการแพร่ระบาดเร็วมาก โดยพบผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโอมิครอนที่ป้องกันตนเองไม่ดี 10 คน จะติดเชื้อ 9-10 คน นับว่าเป็นอัตราการติดเชื้อที่สูงกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ ในส่วนของความรุนแรงของโรคพบว่าน้อยกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้มาก ทั้งเดลตา และอัลฟา
"จากการติดเชื้อ 1 พันคนจะพบผู้ป่วยที่มีความจำเป็นในการรักษาที่โรงพยาบาล 10-15 คน หรือ 1-1.5% จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด ป่วยหนัก 2-3 คน หรือ 0.2-0.3% จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด และเสียชีวิต 1 คน หรือ 0.1% จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด" นพ.รุ่งเรือง กล่าว
สำหรับผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการ และมีอาการเล็กน้อยคล้ายไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ทั้งนี้มาตรการป้องกันตนเอง อาทิ ใส่หน้ากาก เว้นระยะห่างยังช่วยป้องกันโรคได้เช่นเดียวกับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ยังมีประสิทธิภาพ ป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิตอย่างน่าพอใจ
"ข้อพึงระวังคือ แม้ความรุนแรงของโรคจากข้อมูลจะอยู่ในระดับต่ำมาก แต่ไม่ควรประมาท เพราะเชื้อสายพันธุ์นี้ติดง่าย แพร่ง่าย กรณีถ้ามีคนติดเชื้อพร้อมกันมากๆ เข้าก็ย่อมจะมีผู้ป่วยหนัก เป็นจำนวนมากตามมา ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อระบบสุขภาพองค์รวมได้" นพ.รุ่งเรือง กล่าว