นายศุภกฤษฎ์ บุญสาตร์ นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย เปิดเผยภายหลังจากที่ได้มีการหารือกับทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), กรมสรรพากร, สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทยเพื่อหาแนวทางการจัดเก็บภาษีสินทรัพย์ดิจิทัล ว่า จากการหารือในเรื่องดังกล่าวยังไม่ได้ข้อสรุปชัดเจน เนื่องจากยังต้องรอความคิดเห็นจากผู้ที่เป็นนักลงทุนก่อน ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการจัดทำแบบสอบถามผ่านระบบออนไลน์ร่วมกับกรมสรรพากร คาดว่าจะออกมาได้เร็วๆ นี้ เนื่องจากกรมสรรพากรขอเวลาอีก 2-3 วันในการปรับรายละเอียด โดยเฉพาะอัตราต่าง ๆ ในแบบสอบถามให้เหมาะสม
"ใครที่จะยื่นภาษีให้รอความชัดเจนก่อน ซึ่งคิดว่าภายในเดือนนี้น่าจะเห็นได้ เนื่องจากแบบสอบถามผู้ลงทุนใกล้จะสำเร็จแล้ว และเราก็จะทำให้อยู่ในรูปแบบที่ง่าย เป็นแบบสอบถามที่อยู่ในระบบอิเล็กทรอนิกส์ สามารถคำนวนผลได้ไว และเราจะเห็นได้ทันที อย่างไรก็ตามการเรียกร้อง แต่ละฝ่ายก็เรียกร้องความต้องการของตัวเองเต็มหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เชื่อว่าเราจะได้จุดตรงกลาง ที่ทุกฝ่ายยอมรับได้" นายศุภกฤษฎ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทยได้เคยมีข้อเสนอต่อกรมสรรพากรไปใน 3 เรื่อง ได้แก่ 1.ทำให้ชัด หรือลงรายละเอียดของปัญหาในข้อปฏิบัติแต่ละตัว ไล่ทุกข้อให้ละเอียดและชัดเจน 2.ผ่อนปรน ผ่อนปรนในบางรายละเอียด เพื่อให้เก็บได้และไม่ได้สร้างภาระกับผู้เสียภาษีมากเกินไป 3. มองอนาคต สรุปเรื่องแนวทางในอนาคตเพื่อให้ง่ายต่อการเสียภาษีและมีรายได้สม่ำเสมอ
นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำต่อกรมสรรพากรเพื่อพิจารณา 3 หลักการ คือ ความเป็นธรรม, ความชัดเจน และทำได้จริง โดยจะต้องแจ้งให้กับประชาชนทั่วไปรับรู้ถึงกระบวนการและวิธีการต่างๆ ทำอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องของความเป็นธรรม เช่น การไม่นำผลขาดทุนจากการเทรดมาคำนวณในการเก็บภาษี เป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรมกับผู้ลงทุน ขณะเดียวกันผู้ประกอบการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange) ก็ควรได้รับความเป็นธรรมด้วยเช่นกัน ทำอย่างไรที่จะไม่ผลักภาระไปที่ Exchange มากเกินไป หรือแม้กระทั้งเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรที่ปฏิบัติตามกฎหมาย คนทำงาน ที่เห็นว่านักลงทุนคริปโทฯ ไม่ได้เสียภาษี จะตอบคำถามตรงนี้อย่างไร รวมถึงเรื่องที่ทำไม่ได้จริง คือ การหักภาษี ณ ที่จ่าย
ทั้งนี้ทางกรมสรรพากร ก็ได้รับทราบในข้อเสนอดังกล่าวแล้ว จึงอยากให้นักลงทุนคลายความกังวลลง
"เราพยายามจะสื่อสารอยู่เสมอ คือสิ่งที่นักลงทุนเจอมานั้น จริงอยู่ที่ในปี 64 กฎหมายได้ถูกร่างออกมาแล้ว แต่ระหว่างทางเราไม่ได้ความชัดเจนเลย ทำให้ตรงนี้เป็นปัญหาอันที่ 1 ปัญหาอันที่ 2 คือ พอไม่ชัดเจนและมาประกาศว่าเราจะต้องเสีย ทำให้เราไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร และปัญหาที่ 3 พอมาบอกชัดเจน แต่กลับทำไม่ได้จริง ซึ่งเป็น 3 เรื่องที่ เรามองว่าไม่ค่อยยุติธรรม เราจึงสรุปออกมาเป็น 3 ข้อ คือ ต้องเป็นธรรม ชัดเจน และทำได้จริง" นายศุภกฤษฎ์ กล่าว
ขณะที่ทางสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย ได้มีการเสนอให้ยกเว้นการจัดเก็บภาษีฯ ไปเลย 1-2 ปี เพื่อให้อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลได้เติบโตก่อน ซึ่งก็ไม่ได้ขัดกับสิ่งที่สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทยได้เสนอไป โดยเฉพาะในเรื่องของการทำให้ชัด ถ้าหากทางกรมสรรพากร ยังไม่สามารถทำให้ผ่อนคลาย หรือผ่อนปรนได้ จะสามารถยกเว้นไป 1-2 ปีได้หรือไม่ ก็อยู่ในจุดที่กรมสรรพากรนำไปพิจารณา