ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,008 ราย ประกอบด้วย
- ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 7,788 ราย
- จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 40 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 14 ราย
- ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 166 ราย
ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายด้วยการตรวจ ATK 2,065 ราย
- เสียชีวิต 16 รายเป็นเพศชาย 9 ราย เพศหญิง 7 ราย อายุเฉลี่ย 82 ปี (อายุระหว่าง 59-99 ปี) แยกเป็น ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 15 ราย คิดเป็น 94% อายุน้อยกว่า 60 ปี และมีโรคเรื้อรัง 1 ราย คิดเป็น 6%
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 2,440,542 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 8,215 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 22,173 ราย
จังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 1,298 ราย, สมุทรปราการ 784 ราย, ชลบุรี 466 ราย, นนทบุรี 449 ราย, ภูเก็ต 393 ราย, ปทุมธานี 206 ราย, นครราชสีมา 203 ราย, ศรีสะเกษ 172 ราย, อุบลราชธานี 169 ราย และขอนแก่น 167 ราย
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. กล่าวว่า ทางกทม.ยังสามารถดูแลผู้ป่วยที่เริ่มทรงตัวและอาจมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งต้องขอความร่วมมือประชาชนในการดูแลสุขอนามัยส่วนตัว ส่วนคลัสเตอร์ต่างๆ ยังพบในร้านอาหารและสถานบันเทิง ที่สุพรรณบุรี อุดรธานี / ในสถานพยาบาล ที่กรุงเทพมหานคร 30 ราย ชลบุรี 8 ราย นนทบุรี ลพบุรี บุรีรัมย์ จังหวัดละ 3 ราย / ในโรงเรียน ที่เพชรบุรี 19 ราย สุรินทร์ 13 ราย ชลบุรี 12 ราย มุกดาหาร อุดรธานี จังหวัดละ 7 ราย บุรีรัมย์ 5 ราย
ทั้งนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผอ.ศบค. ได้สั่งการให้พิจารณาการปิดสถานศึกษาว่า ไม่ควรจะปิดทั้งโรงเรียน แต่ควรปิดเฉพาะชั้นเรียนแล้วแต่กรณีไป
นอกจากนี้ ยังพบการติดเชื้อในตลาดที่อุบลราชธานี 27 ราย สมุทรสาคร 7 ราย น่าน 22 ราย อุดรธานีและขอนแก่น จังหวัดละ 4 ราย และศรีสะเกษ 3 ราย ส่วนโรงงาน พบที่สมุทรปราการ 8 ราย นครพนม 21 ราย ฉะเชิงเทรา 11 ราย จังหวัดสุรินทร์ 6 ราย ลพบุรี 4 ราย ชลบุรีและบุรีรัมย์ จังหวัดละ 3 ราย ขณะที่สถานที่ทำงาน เช่น ร้านทำผม เพชรบุรี 7 ราย อยุธยา 42 ราย สำหรับพิธีกรรมทางศาสนา เช่น งานศพ งานแต่ง และงานบวชในพื้นที่ต่างจังหวัด ยังพบที่อุบลราชธานี และกาญจนบุรี ส่วนในค่ายทหาร พบที่ปราจีนบุรี 6 ราย และลพบุรี 3 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึง การฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ยังพบจังหวัดได้รับต่ำกว่าเป้าหมาย 50-59% ที่ นราธิวาส ปัตตานี แม่ฮ่องสอน ตาก ลพบุรี ราชบุรี ส่วนจังหวัดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) พบที่กาญจนบุรี ส่วนกลุ่มที่เป็นผู้สูงอายุและผู้มีโรคเรื้อรัง พบที่นครปฐม ปัตตานี นครสวรรค์ สระแก้ว และนนทบุรี จึงต้องขอให้มารับวัคซีนโดยเร็ว หากฉีดเพียงเข็มเดียวไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้
ส่วนวัคซีนเข็มที่ 2 ต่ำสุด 10 จังหวัด คือ แม่ฮ่องสอน นราธิวาส ปัตตานี ตาก ยะลา กาญจนบุรี ลพบุรี บึงกาฬ หนองบัวลำภู และสกลนคร จึงขอให้มารับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึง การปรับแผนการเปิดรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรในรูปแบบ Test&Go ซึ่งดำเนินการตั้งแต่ 1 ก.พ.นี้ โดยอนุญาตให้เข้ามาได้ทุกประเทศ แต่ขอปรับการตรวจหาเชื้อโควิดโดยวิธี RT-PCR 2 ครั้ง ตั้งแต่วันแรกที่เดินทางเข้ามาและตรวจอีกครั้งในวันที่ 5 ซึ่งระบบนี้ทำให้การตรวจมีความรอบคอบมากยิ่งขึ้น และหากมีการระบาดมากขึ้น หรือสถานการณ์เปลี่ยนแปลง การพิจารณารับผู้เดินทางปรับมาใช้ระบบพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว(Sandbox)ได้
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กรณีที่ประชาชนต้องการใช้ชุดตรวจ ATK เพื่อนำไปประกอบหรือแสดงหลักฐาน โรงพยาบาลของรัฐต้องมีการบริการในราคาต้นทุน และมอบหมายให้สปสช.จัดหาชุดตรวจ ATK และต้องจุดซื้อขายชุดตรวจATK ได้ง่ายและมีกระจายทั่วประเทศด้วย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้มีผู้ใช้แอพพลิเคชั่น Thailand Plus โดยใช้อีเมล์ปลอมในการไปขอข้อมูลส่วนบุคคลของนักท่องเที่ยว จึงขออย่าได้หลงเชื่อหรือไปให้ข้อมูลใดๆทั้งสิ้น
ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 375,102,218 ราย เสียชีวิต 5,681,390 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา 75,578,076 ราย อันดับ 2 อินเดีย 41,265,684 ราย อันดับ 3 บราซิล 25,351,489 ราย อันดับ 4 ฝรั่งเศส 19,058,073 ราย และอันดับ 5 สหราชอาณาจักร 16,468,522 ราย ส่วนประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 30