พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ปัจจุบันกรุงเทพมหานคร มีตลาดในกำกับของสำนักงานตลาด กทม. จำนวน 12 แห่ง ที่ผ่านมาสำนักอนามัย กทม. ร่วมกับกรมอนามัย ได้ลงพื้นที่ตรวจประเมินเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันโควิด-19 ตามมาตรการ COVID Free Setting อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ พบว่า ตลาดในกำกับดูแลได้เข้มงวดปฏิบัติตามมาตรการทั้งผู้ค้าและผู้มาใช้บริการอย่างเคร่งครัด โดยจัดจุดคัดกรองเข้า-ออก ติดตั้งอ่างล้างมือและเจลล้างมือ กำหนดจุดเว้นระยะห่าง จัดทำฉากกั้นโต๊ะรับประทานอาหารทุกโต๊ะภายในศูนย์อาหาร ทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมและห้องสุขาเป็นประจำทุกวัน รวมทั้งดำเนินการล้างตลาดเป็นประจำทุกสัปดาห์ทั้ง 12 แห่ง ตลอดจนได้ประกาศเสียงตามสายภายในตลาดกำชับให้ผู้ค้าและผู้มาใช้บริการ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ห้ามมิให้นำหน้ากากมาไว้ใต้คางโดยเด็ดขาด
นอกจากนี้ ยังได้ติดป้ายประกาศป้ายรับรองผ่านมาตรฐาน Thai Stop COVID Plus จากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เช่น ตลาดประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร และตลาดรัชดาภิเษก เขตธนบุรี เป็นต้น รวมถึงได้ออกประกาศกำหนดมาตรการสำหรับผู้ค้า ผู้ช่วยผู้ค้า กลุ่มผู้เช่าสถานที่และเจ้าหน้าที่ของผู้เช่าสถานที่ กลุ่มผู้รับจ้างและเจ้าหน้าที่ของกลุ่มผู้รับจ้าง เช่น พนักงานรักษาความสะอาด พนักงานรักษาความปลอดภัยของสำนักงานตลาด ต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครบ 2 เข็ม และตามกฎระเบียบและมาตราการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด รวมทั้งได้เร่งรัดจัดทำทะเบียนผู้ค้า ผู้ช่วยผู้ค้าและผู้เช่า ในรูปแบบดิจิทัลให้ถูกต้องครบถ้วน
ในส่วนการดำเนินการของสำนักอนามัย ได้จัดประชุมชี้แจงแนวทางมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 และการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในกลุ่มผู้ค้าและแรงงานในตลาดพื้นที่กรุงเทพมหานคร ผ่านระบบออนไลน์ มีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้แทนสำนักงานเขต 50 เขต และผู้ประกอบการตลาดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 488 แห่ง โดยได้ขอความร่วมมือให้สำนักงานเขตและผู้ประกอบการตลาด ดำเนินการตามประกาศกรุงเทพมหานครและมาตรการป้องกันโรค เพื่อควบคุมกำกับดูแลตลาดให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามแนวทาง COVID Free Setting ของกรมอนามัย โดยเฉพาะประเด็น ดังนี้
1. ผู้ประกอบการตลาดต้องควบคุม กำกับ ดูแล ผู้ขาย แรงงาน และผู้ใช้บริการในตลาดให้ปฏิบัติตามมาตรการหลัก D-M-H-T-A (เว้นระยะห่าง-สวมหน้ากากอนามัย-ล้างมือ-วัดอุณหภูมิ-ใช้แอปพลิเคชัน) อย่างเคร่งครัด
2. ผู้ประกอบการตลาด ต้องดูแลตลาดให้ถูกสุขลักษณะด้านสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอ เช่น การล้างทำความสะอาดตลาดเป็นประจำ การปรับสภาพแวดล้อมให้มีการระบายอากาศที่ดี มีการจัดการขยะที่ถูกต้อง และการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention)
3. ผู้ประกอบการตลาดต้องประเมินตนเองผ่านระบบ Thai Stop COVID Plus โดยสามารถพิมพ์ใบประกาศ COVID Free Setting หรือ Thai Stop COVID Plus ติดแสดง ณ สถานประกอบการเพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้บริการ รวมทั้งให้ผู้ประกอบการตลาดประเมินตนเองผ่านระบบแอปพลิเคชัน BKK Food Safety ทุกเดือน
4. ให้ตลาดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 และฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ขายและแรงงานในตลาดให้ครบตามหลักเกณฑ์ หากมีการจ้างแรงงานรายใหม่ ให้ผ่านการฉีดวัคซีนตามเกณฑ์หรือมีผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เบื้องต้น หรือผลตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ไม่เกิน 7 วัน หรือเป็นผู้เคยติดเชื้อมาแล้ว 1-3 เดือน
ปัจจุบัน สำนักอนามัยได้ตรวจสอบข้อมูลกับ 50 สำนักงานเขต ไม่พบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน (คลัสเตอร์) ในตลาดพื้นที่กรุงเทพมหานคร อย่างไรก็ตาม ได้ดำเนินการตรวจเชิงรุก (Active Surveillance) ในตลาด ทุก 2 เดือน และกำหนดแผน Sentinel Surveillance หรือมีการตรวจ Active Case-Finding (ACF) โดยใช้หลักการตรวจทางสถิติ เรียกว่า Lot Quality Assurance Sampling (LQAS) โดยตรวจในตลาดจำนวนทั้งสิ้น 75 คน หากมีผลบวก 1 คน จะปิดแผงค้านั้น แต่ถ้าผลบวก 2 คนขึ้นไป จะปิดตลาด 3 วัน ดำเนินการล้างตลาดตามหลักสุขาภิบาลและฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ปิดแผงที่พบผู้ติดเชื้อ 14 วัน และมีการทำ ACF เพิ่มเติมในผู้ที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อคนแรก
อย่างไรก็ดี ถ้าพบผู้ติดเชื้อไม่เกิน 10% จะต้องปิดแผงที่ติดเชื้อต่อให้ครบ 14 วัน นับจากวันที่พบผู้ติดเชื้อ โดยทางสำนักอนามัยจะออกเอกสารรับรองกับแผงค้าที่เหลือ และสามารถเปิดตลาดได้ในวันที่ 4 นับแต่วันที่ปิด แต่ถ้าหากทำ ACF แล้วพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 10% ของคนที่มาทำ ACF ก็จะต้องปิดตลาดต่อจนครบ 14 วัน และทำการสำรวจชุมชนที่พักรอบๆ ตลาด และอาจจะต้องดำเนินการ Exit Strategy คือ ฉีดวัคซีนให้กับคนในตลาดและรอบๆ ตลาด
ในส่วนของการดำเนินงาน Bangkok Comprehensive Covid-19 Response Team (Bangkok CCRT) และ Sentinel Surveillance ในตลาด จะดำเนินการโดยการสุ่มตรวจ ATK ให้เจ้าหน้าที่หรือประชาชนที่อยู่ในตลาด ซึ่งเป็นคนที่ทำงานในตลาดหรือเดินตลาดเป็นประจำ ตลาดละ 75 ราย ร่วมกับการให้บริการฉีดวัคซีนเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 โดยทางศูนย์บริการสาธารณสุขจะลงพื้นที่ไปฉีดให้ที่ตลาด ซึ่งจะดำเนินการให้ครบ 488 แห่ง ภายในเดือนก.พ. 65 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มาใช้บริการว่ามีความปลอดภัย
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในตลาดพื้นที่อย่างต่อเนื่อง กรณีที่ตรวจพบข้อบกพร่อง สำนักอนามัยได้ให้คำแนะนำผู้ประกอบการปรับปรุงแก้ไข และสำนักงานเขตตรวจสอบซ้ำและควบคุมกำกับให้ปฏิบัติให้ผ่านตามมาตรการฯ รวมทั้งสำนักงานเขตจะลงพื้นที่ตรวจควบคุมกำกับตลาดในพื้นที่ทุกแห่งซ้ำเป็นประจำทุก 2 สัปดาห์ เพื่อให้มั่นใจว่าตลาดทุกแห่งสามารถปฏิบัติตามมาตรการฯ ได้ตลอดเวลา
ทั้งนี้ ในกรณีที่ประชาชนหรือผู้บริโภคพบเห็นตลาด ตลาดสด ไม่ปฏิบัติตามมาตราการป้องกันและควบคุมโรคที่กระทรวงสาธารณสุขและ กทม.กำหนด อันเป็นเหตุให้เกิดการเสี่ยงกระจายของเชื้อโควิด-19 สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรุงเทพมหานคร โทร. 1555 สายด่วนสำนักอนามัย โทร. 0 2245 4964 (24 ชั่วโมง) และสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422 แอปพลิเคชัน BKK Food Safety และสำนักงานเขต 50 เขต (ในวันและเวลาราชการ)