นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ผลการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 3 เข็ม (Triple A) จากข้อมูลการศึกษา ได้ผลไม่ต่างกับการศึกษาของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดที่ทำการศึกษาก่อนหน้านี้
จากผลการศึกษาจะเห็นได้ว่า การกระตุ้นเข็ม 3 ด้วยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ตามหลังแอสตร้าเซนเนก้ามาแล้ว 2 เข็ม การตอบสนองภูมิต้านทานไม่ได้สูงมาก โดยภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากการฉีดด้วยวัคซีนไวรัสเวกเตอร์ หรือแอสตร้าเซนเนก้ามาแล้ว 2 เข็มจะลดลงตามระยะเวลา และเมื่อกระตุ้นเข็ม 3 ด้วยแอสตร้าเซนเนก้า ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจะสูงขึ้นประมาณ 1 ล็อกสเกล หรือกลับไปสูงกว่าในระดับที่ฉีด 2 เข็มครั้งแรกไม่มากนัก จากการตรวจภูมิต้านทานทั้ง 2 วิธี
"การวัดภูมิจะเป็นภูมิในระบบ B เซลล์ การตรวจภูมิในระบบ T เซลล์ของไวรัสเวกเตอร์ ตอบสนองได้ดีกว่าเชื้อตาย ซึ่งผลการศึกษา CMIR หรือภูมิคุ้มกันระดับเซลล์ จะได้เผยแพร่ต่อไป รวมทั้งภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นนี้สามารถป้องกันต่อสายพันธุ์โอไมครอนได้มากน้อยแค่ไหนด้วย" นพ.ยง กล่าว
ดังนั้น ถ้าต้องการให้ระดับภูมิสูงมาก หรือขึ้นเป็น 2 ล็อกสเกล การกระตุ้นเข็ม 3 จะต้องเปลี่ยนแพลตฟอร์มไปเป็น mRNA แต่เนื่องจากหลายคนไม่ต้องการ mRNA จึงมีการฉีดแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็ม 3 ซึ่งถือว่ายังดีกว่าไม่ได้ฉีดกระตุ้นเข็ม 3