รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ที่มีพล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศปก.ศบค. เป็นประธานการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายวัน
โดยผลหารือของที่ประชุม ศปก.ศบค.ในวันนี้จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ในวันพรุ่งนี้ (11 ก.พ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.เป็นประธาน ซึ่งคาดว่าที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่จะพิจารณาแนวทางปฏิบัติหรือกำหนดมาตรการเข้มข้นในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์และเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากขณะนี้มีความกังวลหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงเกินหมื่นรายต่อวันอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ในวันนี้ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จะรายงานสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบันให้ที่ประชุมรับทราบ รวมทั้งเรื่องการเปิดรับนักท่องเที่ยวในรูปแบบ Test&Go, การเปิดการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษา, การตรวจ ATK ให้กับประชาชนเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้สะดวกมากยิ่งขึ้น, แผนการให้บริการฉีดวัคซีน โควิด-19, การจัดทำแผนความตกลง Air Travel Bubble (ATB) ระหว่างไทยกับอินเดีย, แนวทางการนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงาน เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นว่า ต้องดูในภาพรวม ซึ่งเท่าที่ติดตามข้อมูล จำนวนผู้เสียชีวิตยังมีเท่าเดิม ผู้ป่วยรุนแรงยังไม่เพิ่มขึ้น แต่การติดเชื้อมีการติดเชื้อในครัวเรือนเพิ่มขึ้น ถ้าประชาชนได้รับวัคซีนครบถ้วน แม้ติดเชื้อก็ไม่แสดงอาการ ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของแพทย์อยู่แล้ว
"ทุกวันนี้ ได้ขอความร่วมมือในมาตราการ Covid free setting ให้มากที่สุด และเร่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 และเข็ม 4 รวมถึงเร่งฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 5 ขวบขึ้นไป คาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือนถึง 1 เดือนครึ่ง ทุกอย่างก็จะกลับสู่ภาวะปกติ และหากอาการป่วยหนักและอัตราเสียชีวิตยังควบคุมได้ ก็ต้องพยายามอยู่กับโควิดให้ได้" นายอนุทิน กล่าว
ส่วนช่วงเทศกาลสงกรานต์ คงต้องเน้นในเรื่องการขอความร่วมมือ รวมถึงวันวาเลนไทน์ ก็ต้องใช้มาตรการ Covid free setting เพื่อรักษาระยะห่างเช่นกัน