น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รับทราบและพร้อมสนับสนุนข้อคิดเห็นจากเวทีการประชุมเรื่อง "ผู้หญิง สันติภาพ และความมั่นคง (Women Peace and Security) เพื่อการพัฒนาแผนระดับชาติ" จัดโดยสถาบันวิจัยความขัดแย้งและความหลากหลาย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เมื่อวันศุกร์ที่ 26 ก.พ. ที่ต้องการให้ภาครัฐส่งเสริมบทบาทและโอกาสของผู้หญิงในงานด้านสันติภาพและความมั่นคง ซึ่งครอบคลุมประเด็นการป้องกันความรุนแรงต่อสตรีและเด็กในทุกรูปแบบ ความเสมอภาคทางเพศ การส่งเสริมอาชีพ และการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในระดับตัดสินใจ เป็นต้น
ทั้งนี้ ข้อเสนอดังกล่าว สอดคล้องกับมาตรการภายใต้ร่างยุทธศาสตร์การพัฒนาสตรีจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2564-2570 ขณะเดียวกัน การพูดคุยเพื่อสันติสุขกับกลุ่ม BRN ในโอกาสต่อไป ก็จะหยิบประเด็นการลดความรุนแรงต่อเด็กและสตรีเข้าพูดคุยด้วย ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี
ศูนย์อำนวยการบริหารจัดการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้ยกร่างแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาสตรีฯ ซึ่งมีแนวทางส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมในกระบวนการสร้างสันติภาพ อาทิ 1) กำหนดมาตรการที่จำเป็นในการให้ความคุ้มครองผู้หญิงและเด็กในพื้นที่ที่ขัดแย้งในจังหวัดใช้แดนภาคใต้ 2) สร้างผู้นำหญิงเพื่อเป็นกลไกแก้ไขความขัดแย้งในระดับชุมชนและสังคม และ 3)ให้มีตัวแทนผู้หญิงในกระบวนการสร้างสันติภาพเพื่อนำเสนอปัญหาของผู้หญิงในทุกระดับ
ขณะเดียวกัน ยังได้กำหนดมาตรการเพื่อเพิ่มโอกาสผู้หญิงในการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจระดับนโยบายด้วย อาทิ 1) กำหนดให้มีสัดส่วนของผู้หญิงในการเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ/คณะทำงาน/ที่ปรึกษาคณะทำงานชุดต่างๆ ที่แต่งตั้งโดยรัฐ 2) เพิ่มจำนวนผู้หญิงในการเขียนกฎหมายการกำหนดนโยบายหรือการพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิง เป็นต้น
"นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นในศักยภาพของผู้หญิงในการขับเคลื่อนให้เกิดสันติภาพ และการพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งแผนการส่งเสริมบทบาทสตรีของ ศอ.บต. ประกอบกับการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ จะเป็นกลไกสำคัญสู่เป้าหมายดังกล่าว ควบคู่ไปกับการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้กับคณะผู้แทนกลุ่ม BRN โดยฝ่ายไทยมี พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งในครั้งหน้า จะมีการนำประเด็นที่ภาคประชาชนและภาคส่วนต่างๆ เสนอแนะถึงแนวทางการลดความรุนแรงทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการลดความรุนแรงต่อเด็กและสตรี การลดความรุนแรงต่อพื้นที่สาธารณะ และลดความรุนแรงต่อพื้นที่เศรษฐกิจ เข้าสู่การพูดคุยด้วย" รองโฆษกฯ กล่าว