ที่ประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้พิจารณาเห็นชอบโครงการบำบัดน้ำเสียมีนบุรี ระยะที่ 2 (กทม.) ปี 66-69 ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นโครงการตามแผนการแก้ไขปัญหาและบำบัดน้ำเน่าเสียในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของ กทม.อันเป็นผลมาจากการเจริญเติบโตของเมืองอย่างรวดเร็ว ประชาชนต้องใช้น้ำเป็นจำนวนมากทำให้เกิดน้ำเสียไหลลงสู่คลองสายสำคัญ คือ คลองแสนแสบ
โดยสำนักการระบายน้ำของ กทม.ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเริ่มจากโครงการระยะที่ 1 ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และจะดำเนินโครงการก่อสร้างระบบรวบรวมและระบบบำบัดน้ำเสียมีนบุรี ระยะที่ 2 เพื่อก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย (42,000 ลบ.ม./วัน) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันแก้ปัญหาน้ำเน่าเสียในคลองต่างๆ เช่น คลองแสนแสบ,คลองสามวา และคลองสองต้นนุ่น ในเขตมีนบุรี เขตคลองสามวา เขตคันนายาว และเขตสะพานสูง ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 2,902 ล้านบาท
นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติให้ขอรับการจัดสรรงบประมาณ พ.ศ.2566 โดยมีโครงการด้านทรัพยากรน้ำจำนวน 7 โครงการ และรับทราบความก้าวหน้าการติดตามสถานภาพโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญ ซึ่งมีโครงการที่ติดตามอยู่ขณะนี้จำนวน 73 โครงการ และมีโครงการที่มีความพร้อมเพื่อเตรียมจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น ภายใต้ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 และไม่ติดขัดเงื่อนไขด้านสิ่งแวดล้อมได้แก่ อ่างเก็บน้ำบ้านป่าละอู จ.ประจวบคีรีขันธ์ อ่างเก็บน้ำน้ำปี้ จ.พะเยา อ่างเก็บน้ำคลองขลุง จ.จันทบุรี และอ่างเก็บน้ำลำรูใหญ่ จ.พังงา เป็นต้น
พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำให้ทุกหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาที่ยังเป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนโครงการ เพื่อให้เกิดประโยชน์และตรงกับความต้องการของประชาชนทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่กำลังประสบปัญหาภาวะน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ ต้องรีบแก้ปัญหาให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด และต้องสร้างการรับรู้ความเข้าใจประชาชน และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้โครงการต่างๆ ประสบผลสำเร็จได้อย่างยั่งยืนต่อไป