นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม รับทราบสถานการณ์การช่วยเหลือชาวไทยในยูเครนอย่างต่อเนื่อง โดยชื่นชมและขอบคุณการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่มีมาอย่างต่อเนื่องแม้สถานการณ์ในยูเครนจะยังคงตึงเครียด
ขณะนี้คนไทยจากยูเครนชุดที่ 4 จำนวน 16 คนออกเดินทางจากประเทศโรมาเนีย และคนไทยชุดที่ 5 จำนวน 45 คนออกเดินทางจากประเทศโปแลนด์แล้ว และมีกำหนดเดินทางถึงกรุงเทพฯ ในวันนี้ โดยความร่วมมือของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนี้ยังมีคนไทยจำนวนหนึ่งซึ่งสถานเอกอัครราชทูตต่างๆ ได้ให้การช่วยเหลือแล้ว และเตรียมเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 6 มี.ค.65 ด้วยเช่นกัน
ในการนี้ไทยได้ให้ความร่วมมือแก่สถานเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำประเทศโปแลนด์ในการอพยพชาวฟิลิปปินส์จำนวน 15 คน ออกจากประเทศยูเครนไปยังกรุงวอร์ซอเมื่อวันที่ 2 มี.ค.65 และให้ความร่วมมือแก่สถานเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศเยอรมนีในการอพยพชาวสิงคโปร์จำนวน 2 คน (เป็นแม่และเด็กทารก) ออกจากเมืองโอเดซาไปยังประเทศโรมาเนียอีกด้วย
"นายกรัฐมนตรีขอบคุณและให้กำลังใจทุกภาคส่วนที่ร่วมกันปฏิบัติการช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยในยูเครนอย่างรวดเร็ว เป็นการทำงานอย่างเร่งด่วนในช่วงสถานการณ์ตึงเครียด พร้อมชื่นชมน้ำใจและมิตรไมตรีคนไทยที่มีให้แก่เพื่อนบ้านใกล้ชิดสมาชิกอาเซียนอย่างฟิลิปปินส์และสิงคโปร์ในยามประสบกับความยากลำบาก" นายธนกร กล่าว
ด้าน นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) (ทอท.) กล่าวว่า ในวันนี้จะมีการอพยพคนไทยในยูเครนกลับประเทศเป็นวันที่ 3 จำนวน 2 เที่ยวบิน คือ 1.สายการบินไทย เดินทางมาถึงเวลา 06.14 น.มีคนไทยจำนวน 16 คน และ 2.สายการบินเอมิเรตส์ เดินทางมาถึงเวลา 12.05 น.มีคนไทยจำนวน 45 คน
โดย ทสภ.ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (COVID-19) ทสภ. ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 สำนักงานศุลกากรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสายการบิน ตลอดจนหน่วยงานต่างๆ ในการอำนวยความสะดวกดูแลผู้โดยสารคนไทยที่ได้รับผลกระทบให้ผ่านกระบวนการขั้นตอนการเดินทางเข้าประเทศไทย โดยทุกคนที่มากับเที่ยวบินดังกล่าวผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR โดยเจ้าหน้าที่จากด่านควบคุมโรคฯ ก่อนผ่านขั้นตอนกระบวนการต่าง ๆ ในการเข้าเมือง การรับสัมภาระ และขึ้นรถรับส่งไปยังสถาบันบำราศนราดูร ซึ่งการดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมจัดเตรียมของว่างและน้ำดื่มไว้รับรองเช่นเดิม
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2-3 มี.ค.ที่ผ่านมา มีผู้โดยสารคนไทยและครอบครัวที่อพยพจากยูเครนเดินทางถึงแล้วจำนวน 3 เที่ยวบิน รวมทั้งสิ้น 136 คน สำหรับผู้ที่ต้องการสอบถามเกี่ยวกับเที่ยวบินเพื่ออพยพคนไทยจากยูเครน สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ AOT Contact Center 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง