นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมการบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทาน เพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำภาพรวมทั้งประเทศ และพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา พร้อมมอบนโยบายให้กรมชลประทานเตรียมแผนบริหารจัดการน้ำตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ มุ่งพัฒนาแหล่งเก็บกักน้ำสำรอง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในพื้นที่ขาดแคลนน้ำ และสร้างการรับรู้ต่อประชาชน
โดยกรมชลประทาน มีแผนการจัดสรรน้ำในฤดูแล้งปี 2564/65 (ทั้งประเทศ) ซึ่งมีน้ำต้นทุนฤดูแล้ง รวม 37,857 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) แบ่งเป็น แผนจัดสรรน้ำฤดูแล้งปี 2564/65 (พ.ย.64-เม.ย.65) รวม 22,280 ล้าน ลบ.ม. และการสำรองน้ำต้นฤดูฝนปี 2565 (พ.ค.-ก.ค.65) รวม 15,577 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งการจัดสรรน้ำฤดูแล้งปี 2564/65 (พ.ย.64-เม.ย.65) นั้น (ข้อมูล ณ วันที่ 9 มี.ค. 65) มีปริมาณน้ำเก็บกักรวม 51,054 ล้าน ลบ.ม. (67%) และมีปริมาณน้ำใช้การในอ่างเก็บน้ำขนาใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก รวม 26,961 ล้าน ลบ.ม. (51%) โดยจะบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุนตามลำดับความสำคัญของกิจกรรมการใช้น้ำ ได้แก่ 1) จัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคในช่วงฤดูแล้ง 2) จัดสรรน้ำเพื่อการรักษาระบบนิเวศในช่วงฤดูแล้ง 3) การสำรองน้ำไว้สำหรับการใช้น้ำในช่วงต้นฤดูฝน (เพื่ออุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศเดือน พ.ค.-ก.ค.) 4) จัดสรรน้ำเพื่อการเกษตร และ 5) จัดสรรน้ำเพื่อการอุตสาหกรรม
สำหรับแผนการจัดสรรน้ำฤดูแล้ง ปี 2564/65 ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ในช่วงวันที่ 1 พ.ย.64-30 เม.ย.65 มีแผนจัดสรรน้ำรวม 7,744 ล้าน ลบ.ม. โดยปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 9 มี.ค.65) มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยฯ เขื่อนป่าสักฯ มีปริมาณน้ำเก็บกักรวม 11,840 ล้าน ลบ.ม. (48%) และมีปริมาณน้ำใช้การ 5,144 ล้าน ลบ.ม. (28%)
รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้ย้ำให้กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำให้มีความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ และสำรวจ ตรวจสอบ พื้นที่ที่มีศักยภาพที่จะพัฒนาเป็นแหล่งเก็บกักน้ำสำรองได้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในพื้นที่ขาดแคลนน้ำ รวมถึงสร้างการรับรู้ต่อเกษตรกรและผู้ใช้น้ำ เพื่อให้ทุกภาคส่วนเกิดความร่วมมือในการใช้น้ำอย่างประหยัดและเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้