นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ มีนโยบายหลักที่จะผลักดัน และสนับสนุนให้การส่งออกผลไม้ไปต่างประเทศให้มีความคล่องตัว และพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญที่ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะที่กำกับดูแลกรมวิชาการเกษตร ได้มอบหมายให้ลงพื้นที่ เพื่อติดตามกำกับดูแลการดำเนินงานการส่งออกผลไม้ภาคตะวันออกฤดูกาลผลิตปี 2565 โดยเฉพาะทุเรียน ซึ่งกำลังมีผลผลิตออกสู่ท้องตลาดในขณะนี้ เนื่องจากกรมวิชาการเกษตรมีภารกิจหลักในการตรวจสอบศัตรูพืชไม่ให้ติดปนเปื้อนไปกับผลผลิตที่จะส่งออก รวมทั้งปัจจุบันจีนยังได้กำหนดมาตรการเพิ่มเติม ให้เข้มงวดตรวจสอบป้องกันไม่ให้มีเชื้อไวรัสโควิด-19 ปนเปื้อนไปกับผลผลิตด้วย
ในด้านการป้องกันทุเรียนด้อยคุณภาพหรือทุเรียนอ่อน ไม่ให้มีการลักลอบส่งออก เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญ ซึ่ง รมช.เกษตรฯ ได้กำชับให้กรมวิชาการเกษตรกำกับดูแลคุณภาพและมาตรฐาน ป้องกันไม่ให้มีสินค้าด้อยคุณภาพหรือทุเรียนอ่อน หลุดรอดไปถึงผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งนี้ กรมฯ ได้มอบหมายให้หน่วยงานในพื้นที่ คือ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 จันทบุรี ให้ความร่วมมือดำเนินการป้องกันและตรวจสอบร่วมกับ จ.จันทบุรี ตามประกาศการกำหนดเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งในเนื้อทุเรียน โดยใช้ค่ามาตรฐานเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งในเนื้อทุเรียนตามมาตรฐานสินค้าเกษตรเรื่องทุเรียน ซึ่งระบุว่าทุเรียนพันธุ์กระดุม ไม่น้อยกว่า 27% พันธุ์ชะนีและพันธุ์พวงมณี ไม่น้อยกว่า 30% และพันธุ์หมอนทองไม่น้อยกว่า 32% ถ้าเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่านี้ ถือว่าเป็นทุเรียนอ่อน
"ขอเน้นย้ำว่าทางกระทรวงเกษตรฯ ให้ความสำคัญกับคุณภาพมาตรฐานการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าเป็นอย่างมาก จึงขอความร่วมมือให้เกษตรกรและผู้ประกอบการ ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการส่งออกของประทศคู่ค้าอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการปฏิบัติตาม GMP Plus (มาตรการ GMP+Covid-19) การปฏิบัติในโรงคัดบรรจุที่ดีตามมาตรฐาน GMP และตามมาตรการการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าเกษตรไทย มีความปลอดภัยต่อการบริโภคทั้งในประเทศและการส่งออกไปต่างประเทศ" อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว
นายระพีภัทร์ กล่าวว่า ได้ร่วมกับนายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการ จ.จันทบุรี ทำการจับกุมและดำเนินคดีตัดทุเรียนไม่ได้คุณภาพ (อ่อน) เพื่อการส่งออก ณ สถานีตำรวจภูธรท่าใหม่ ซึ่งได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีมีล้งทุเรียนแห่งหนึ่งตั้งอยู่ที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ว่ามีการรับซื้อทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน) เพื่อนำส่งออกไปจำหน่ายที่ประเทศจีน
ดังนั้น ชุดเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพ จ.จันทบุรี จึงได้เข้าไปดำเนินการตรวจสอบล้งทุเรียนตามที่ได้รับแจ้งดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าได้ขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตสินค้าพืชกับกรมวิชาการเกษตร และพบทุเรียนอ่อนในโรงคัดบรรจุดังกล่าวนั้น นอกจากจะมีการดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญาที่ระบุในคำสั่ง จ.จันทบุรี แล้ว ในส่วนของกรมวิชาการเกษตร จะมีการดำเนินการกับเกษตรกรและโรงคัดบรรจุที่ขึ้นทะเบียน โดยเกษตรกรเจ้าของผลผลิตทุเรียนด้อยคุณภาพที่อายัดไว้ ตรวจสอบแล้วพบว่า ได้รับการรับรอง GAP จาก สวพ.6 กรมวิชาการเกษตร พื้นที่การผลิต จำนวน 3 ไร่
ทั้งนี้ หากสืบสวนแล้วปรากฏว่ามีเจตนาให้ตัดผลผลิตไม่ได้คุณภาพ หรือเพิกเฉยไม่คัดค้านการนำผลผลิตที่ไม่ได้คุณภาพของตนออกสู่ท้องตลาด เกษตรกรผู้ได้รับการรับรองไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการรับรองแหล่งผลิต GAP พืช เจ้าหน้าที่จะเสนอข้อมูลเสนอต่ออธิบดีหรือผู้ได้รับมอบหมาย มีอำนาจสั่งพักใช้ใบรับรอง หรือเพิกถอนใบรับรอง GAP ซึ่งในส่วนของโรงคัดบรรจุ ก็จะมีการดำเนินการเช่นเดียวกันภายใต้ประกาศกรมวิชาการเกษตรเรื่องการขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตสินค้าพืช