นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากปัญหาการเกิดโรคลัมปีสกินในโค-กระบือ(Lumpy SkiDisease) : LSD ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ที่เกิดขึ้นในประเทศช่วงเดือนมี.ค. 64 สร้างความเสียหายให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือ โดยในช่วงที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ได้นำเข้าวัคซีนมาแล้ว 5.3 ล้านโดส เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรค ใช้งบประมาณกว่า 160 ล้านบาท และภาคเอกชน สมาคม และกลุ่มกลุ่มเกษตรกรนำเข้ามาอีกประมาณ 5 แสนโดส มูลค่าประมาณ 22.5 ล้านบาท เป็นมูลค่ารวมกว่า 180 ล้านบาท
ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการป้องกันโรคให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโค กระบือ และเป็นการสร้างความมั่นคงทางด้านวัคซีน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ดำเนินการพัฒนาการผลิตวัคซีนโรคลัมปีสกิน ขณะนี้ประสบความสำเร็จ ผลการกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเทียบเท่ากับวัคซีนที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยคาดว่าจะผลิตวัคซีนชุดแรกแล้วเสร็จช่วงประมาณกลางเดือนพ.ค. 65 ในราคาต้นทุนโดสละ 9 บาท ซึ่งในช่วงปีแรก (มิ.ย. 65 - พ.ค. 66) สามารถผลิตวัคซีนได้ มีมูลค่า 6 ล้านบาท หากต้องนำเข้าจากต่างประเทศต้องใช้งบประมาณถึง 27 ล้านบาท ทำให้ช่วยประหยัดงบประมาณแผ่นดินได้มากถึง 21 ล้านบาท
นางสาวรัชดา กล่าวว่า เพื่อให้มีปริมาณวัคซีนเพียงพอต่อความต้องการใช้สำหรับการควบคุมและป้องกันภายในประเทศ รวมถึงสัตว์นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน กรมปศุสัตว์ได้ศึกษาความเป็นไปได้เพื่อขยายกำลังการผลิตวัคซีนโรคลัมปีสกิน เชื้อตาย ให้สามารถผลิตได้เดือนละ 5 แสน ถึงกว่า 1 ล้าน โดส หากกำลังการผลิตเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดจะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศได้กว่าปีละ 280 ล้านบาท อีกทั้ง สามารถส่งขายให้กับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนได้อีกด้วย นอกจากนี้การฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงยังนำไปสู่การกำจัดโรคลัมปีสกินให้หมดไปจากประเทศไทยได้อย่างถาวรในอนาคต