นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีความกังวลว่าจะทำให้ยอดการติดเชื้อสูงขึ้น แต่กระทรวงสาธารณสุขยังเชื่อมั่นว่าวัคซีนที่ฉีดให้ประชาชนไปแล้วจะทำหน้าที่ของมันได้ เมื่อเกิดการติดเชื้อต้องควบคุมสถานการณ์ให้ได้และผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่ค่อยแสดงอาการ บางคนสามารถรับประทานยารักษาตามอาการและหายโรคเองได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่เราไม่ประมาท และต้องเตรียมแผนรองรับ
"ต้องทำความเข้าใจก่อน เรื่องการสาดน้ำสงกรานต์แบบเดิมนั้นทำไม่ได้ ที่ผ่านมาเราผ่อนคลายมาตรการออกมามากพอสมควร แต่ก็ต้องขอให้ช่วยกัน ขอให้เข้าใจธรรมชาติของการติดเชื้อโควิด-19 คือการสัมผัส รวมกลุ่มใกล้ชิด และใช้ภาชนะร่วมกัน การสาดน้ำแบบสมัยก่อนจะมีการนำมือลงไปกวนแป้งดินสอพอง ใช้มือประแป้ง ใช้ขันใส่น้ำร่วมกัน จะไปบอกว่าให้ใส่ถุงมือเล่นน้ำสงกรานต์ก็เป็นไม่ได้อยู่แล้ว จึงขอความร่วมมือให้ทำตามประเพณีและวัฒนธรรมที่ดี สามารถรดน้ำได้โดยไม่ต้องสาด" นายอนุทิน กล่าว
ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขมีความเป็นห่วงกลุ่มผู้สูงอายุและเด็กต่ำกว่า 5 ปี จึงเร่งเข้าไปฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ โดยใช้วิธีเชิงรุก ไม่ต้องรอให้มาหาที่สถานบริการพยาบาล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการเข้าถึงประชาชน นอกจากผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ก็เป็นอีกกลุ่มที่ต้องระวัง เนื่องจากมีจำนวนการติดเชื้อสูงขึ้น ฝากให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง งดพาเด็กเล็กไปโรงพยาบาล เพราะเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคหลายอย่าง ส่วนคนทั่วไปยังต้องเฝ้าระวังตัวเองให้ดี และขอย้ำให้ฉีดวัคซีน เพราะจะป้องกันการเจ็บป่วยที่รุนแรง
ส่วนการปรับให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้เป็นการพิจารณาของแพทย์ ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลจะเป็นผู้สนับสนุนการทำงานของแพทย์เอง ที่ผ่านมามีความกังวล แต่เมื่อแพทย์ให้คำอธิบายในเชิงหลักวิชาการรองรับไว้เราก็พร้อมรับฟัง และช่วยกันพิจารณา