นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเดินทางไปยังกระทรวงเกษตรทรัพยากรธรรมชาติ และคุณภาพอาหาร แห่งราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ เพื่อหารือประเด็นการขับเคลื่อนภาคการเกษตรระหว่างประเทศไทยและเนเธอร์แลนด์ ร่วมกับ นาย ยัน เกส กูท (Mr. Jan Kees Goet) ปลัดกระทรวงเกษตรทรัพยากรธรรมชาติ และคุณภาพอาหาร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางเยือนราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ เพื่อร่วมงานมหกรรมพืชสวนโลก The International Horticultural Exposition 2022 (EXPO 2022) Floriade Almere และเป็นประธานพิธีเปิด Thailand Pavilion ระหว่างวันที่ 11-15 เม.ย. 65 ณ เมือง Almere ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์
สำหรับการหารือในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสอันดีที่จะได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและประสบการณ์ ที่ทั้งสองฝ่ายเผชิญความท้าทายร่วมกัน รวมถึงความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างกัน ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันดีว่า ภาคการเกษตรของเนเธอร์แลนด์มีความแข็งแกร่งมากในทุกๆ ด้าน และเป็นที่ยอมรับจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ทั้งในด้านปศุสัตว์ ผักและไม้ดอก ระบบการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงงานวิจัยสาขาเกษตร
ในส่วนของผลการหารือในครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะทำความร่วมมือระหว่างกัน ทั้งในด้านวิชาการ การแลกเปลี่ยนนวัตกรรม องค์ความรู้ รวมถึงการแลกเปลี่ยน Young Smart Farmer ระหว่างทั้งสองประเทศ ขณะที่เนเธอร์แลนด์ให้ความสำคัญและเน้นการดำเนินการเรื่องการลดโลกร้อน เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยมุ่งเน้นที่จะพัฒนาสร้างความยั่งยืนทางด้านการจัดการน้ำ การจัดการคุณภาพดิน รวมถึงเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินงานของกระทรวงเกษตรฯ นโยบาย Next Normal ที่จะต้องรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต และทำให้การเกษตรสามารถมีความยั่งยืน
ขณะเดียวกัน เนเธอร์แลนด์ ได้มอบหมายทูตเกษตรเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย ประสานงานกับฝ่ายไทย ในรายละเอียดความร่วมมือ และกระทรวงเกษตรฯ ได้มอบหมายสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป ติดตามการดำเนินงานความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายด้วย
สำหรับมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยไปเนเธอร์แลนด์ที่สำคัญ 5 อันดับ ได้แก่ ไก่ชนิดแกลลัสโดเมสติกัส (4,456 ล้านบาท, 19.4%), เนื้อไก่ตัดขนาดเท่าลูกเต๋า แช่แข็งแห้งหนังหมูแห้ง (2,894 ล้านบาท, 15.84%), ซอสและของปรุงแต่งสำหรับทำซอส เช่น ซอสพริก น้ำปลา (1,668 ล้านบาท, 6.23%), ข้าว (1,211 ล้านบาท, 4.57%) และยางธรรมชาติ (ทีเอสเอ็นอาร์) (1,342 ล้านบาท, 4.52%)