นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมืองในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี (ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์) เปิดเผยสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 12 เมษายน 65 ซึ่งเป็นวันที่สองของการรณรงค์ "ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ" ว่า เกิดอุบัติเหตุ 301 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 47 ราย ผู้บาดเจ็บ 292 ราย
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด 36.88% ดื่มแล้วขับ 25.25%
ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ 79.94% รถปิกอัพ 6.15% ส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง 40.20% ถนนใน อบต./หมู่บ้าน 34.88% บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางตรง 83.72%
ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 17.01 ? 18.00 น. 9.97%
ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ในช่วงอายุ 20 - 29 ปี 20.94%
โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขอนแก่น (14 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ ขอนแก่น และนครศรีธรรมราช (จังหวัดละ 12 คน)
จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา (4 ราย)
เจ้าหน้าที่ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,902 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 56,281 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 400,647 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 72,886 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 20,731 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 20,136 ราย
สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสม 2 วัน (วันที่ 11-12 เมษายน 65) เกิดอุบัติเหตุรวม 538 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 73 ราย ผู้บาดเจ็บ 530 ราย โดยสาเหตุหลักยังคงเกิดจากการขับรถเร็วและการดื่มแล้วขับ ทั้งนี้ พฤติกรรมเสี่ยง ที่ทำให้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด คือ ไม่สวมหมวกนิรภัย
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ ขอนแก่น (24 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา และพระนครศรีอยุธยา (จังหวัดละ 4 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (26 คน) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตรวม 34 จังหวัด
นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในช่วง 2 วันที่ผ่านมา พบว่า สาเหตุสำคัญเกิดจากการขับรถเร็วและการไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย ทำให้ดัชนีความรุนแรงของอุบัติเหตุสูง ส่งผลให้มีอัตราการเสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ ค่อนข้างสูง จึงได้ให้จังหวัดวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา ประกอบกับในวันนี้คาดการจราจรบนถนนสายหลักจะมีปริมาณรถไม่หนาแน่น ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้ความเร็วได้
ศปถ. จึงได้กำชับให้จังหวัดกวดขันการใช้ความเร็วเป็นพิเศษ โดยเฉพาะรถกระบะ รถโดยสารสาธารณะ และรถตู้โดยสารประจำทางและไม่ประจำทาง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุรุนแรง สำหรับวันนี้เป็นวันแรกของวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนส่วนใหญ่ได้เดินทางถึงจุดหมาย คาดว่าจะมีการใช้เส้นทางถนนสายรองโดยเฉพาะเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างอำเภอ อบต.และหมู่บ้าน จึงได้ประสานจังหวัดใช้กลไกในระดับพื้นที่ดำเนินมาตรการทางสังคมอย่างเข้มข้นในการดูแลความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่ เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานบนเส้นทางสายรอง รวมถึงเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติงานของด่านชุมชน จุดตรวจ และจุดสกัด ในพื้นที่ชุมชน/หมู่บ้านดูแลและป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะจุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง