ตร.เผยสงกรานต์ 2565 อุบัติเหตุ-ผู้เสียชีวิต-ผู้บาดเจ็บลดลงตามเป้า

ข่าวทั่วไป Monday April 18, 2022 14:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงผลการดำเนินการในการอำนวยการจราจร ป้องกันและลดอุบัติเหตุ และการบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก ช่วงควบคุมเข้มข้น 7 วัน เทศกาลสงกรานต์ 2565 ของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนฯ ว่า ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.65 มาจนถึงวันสุดท้ายคือ 18 เม.ย.65 จะมีการติดตามสถานการณ์การจราจร และการปฏิบัติของแต่ละหน่วยผ่านระบบประชุมทางไกล เพื่อลดอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ ตามค่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด โดยผลการดำเนินการในแต่ละด้านมีดังนี้

1.การอำนวยความสะดวกและจัดการจราจร จัดกำลังตำรวจกว่า 80,000 นาย ดูแลการจราจรตลอด 7 วัน มีปริมาณรถ เข้า-ออกจาก กทม. รวมจำนวน 6,873,404 คัน เพิ่มขึ้น +6.2% จากสงกรานต์ปี 64 โดยออกจาก กทม. จำนวน 3,365,330 คัน และเข้า กทม. จำนวน 3,508,074 คัน วันที่ประชาชนเดินทางออกจาก กทม. มากที่สุด คือวันที่ 12 เม.ย.65 ส่วนวันที่ประชาชนเดินทางเข้า กทม. มากที่สุด คือวันที่ 17 เม.ย.65 ซึ้งมีการเปิดช่องทางพิเศษ (Reversible Lane) จำนวนทั้งสิ้น 79 ครั้ง (ระบายรถขาออก 21 ครั้ง/ขาเข้า 58 ครั้ง) รถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไปที่ขออนุญาตเดินรถในช่วงเวลาห้าม ผ่านระบบออนไลน์ จำนวน 27,510 คัน อนุญาตให้เดินรถได้ 25,401 คัน (รถที่ได้รับอนุญาตมากที่สุด คือ รถบรรทุกน้ำมันหรือแก๊ส (54%) รองลงมา คือ รถบรรทุกอาหาร เครื่องอุปโภค บริโภค (38%) ) ไม่อนุญาตจำนวน 2,109 คัน และพบผู้ฝ่าฝืนเดินรถในเวลาห้าม จำนวน 293 ราย เนื่องจากเป็นสาเหตุให้การจราจรติดขัด

2.การบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก มีการตั้งจุดตรวจทุกวันเพื่อบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ฝ่าฝืน ทั่วประเทศ มีจำนวนจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร 2,078 จุดตรวจ จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ 1,468 จุดตรวจ พบผู้ฝ่าฝืนทั้งสิ้น 395,929 ราย ข้อหาขับรถในขณะเมาสุรา 16,072 ราย (มากกว่าสงกรานต์ปีที่แล้ว 17%) ข้อหาไม่สวมหมวกนิรภัย 65,652 ราย และข้อหาขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด จำนวน 159,090 ราย โดย 10 ข้อหาหลักนี้ จะก่อให้เกิดอันตรายอย่างยิ่งต่อผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่น จึงจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด

3.การป้องกันและลดอุบัติเหตุ รัฐบาลกำหนดค่าเป้าหมายให้ จำนวนครั้ง การเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บ (admit) ต้องลดลงไม่น้อยกว่า 5% เมื่อเทียบกับสถิติในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง (พ.ศ.2561, 2562 และ 2564) ซึ่งจากการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ส่งผลให้สถิติอุบัติเหตุลดลงตามเป้าในทุกด้าน

  • การเกิดอุบัติเหตุ 7 วันของเทศกาลสงกรานต์ 2565 เกิดจำนวน 1,917 ครั้ง ลดลงจากค่าเฉลี่ย 3 ปี (3,142 ครั้ง) เป็นจำนวน -1,225 (ลดลง 38.99%)
  • จำนวนผู้เสียชีวิต 7 วันของเทศกาลสงกรานต์ 2565 มีจำนวน 278 ราย ลดลงจากค่าเฉลี่ย 3 ปี (360 ราย) เป็นจำนวน -82 (ลดลง 22.78%)
  • จำนวนผู้บาดเจ็บ 7 วันของเทศกาลสงกรานต์ 2565 มีจำนวน 1,869 คน ลดลงจากค่าเฉลี่ย 3 ปี (3,232 คน) เป็นจำนวน -1,363 (ลดลง 42.17%)

ทั้ง 3 สถิติถือว่าลดลงมากกว่า 5% สำเร็จตามค่าเป้าหมายที่กำหนด โดย บช. ที่มีผลการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนดีที่สุด ได้แก่ ตำรวจภูธรภาค 3 ,4, และ ภาค 9 จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต มีจำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ สิงห์บุรี นครพนม สมุทรสงคราม ระนอง ปัตตานี ยะลา

สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ( 36.67%) ดื่มแล้วขับ (27.23%) และตัดหน้ากระชั้นชิด (17.63%) ประเภทรถที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ รถจักรยานยนต์ (82.01%) รถกระบะ (7.05%) และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล(2.96%) สำหรับพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บมากที่สุด คือ ไม่สวมหมวกนิรภัย (65.02 %)

5.การประชาสัมพันธ์ข้อมูล มีการประชาสัมพันธ์ผ่านเพจ facebook ตำรวจทางหลวง และสายด่วน บก.ทล. 1193, จส.100 สวพ.91 รวมทั้งสื่อหลักและสื่อโซเชียล ที่เกี่ยวกับการจราจรต่างๆ โดยมีประชาชนสอบถามข้อมูลการจราจรและแจ้งเหตุผ่านทาง สายด่วน 1193 รวมจำนวน 2,650 สาย เป็นการสอบถามเส้นทางและสภาพการจราจรจำนวน 2,062 สาย และขอความช่วยเหลืออีก 448 สาย

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า การอำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน เทศกาลสงกรานต์ 2565 เป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ตำรวจอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ ลดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด ซึ่งหลังจากนี้จะมีคำสั่งให้ทุกกองบัญชาการสรุปข้อมูลและถอดบทเรียน ปัญหาการปฏิบัติทุกๆ ด้าน เพื่อนำมาใช้ในการป้องกันอุบัติเหตุและอำนวยการจราจรในช่วงวันหยุดยาวเดือนกรกฎาคม และตลอดทั้งปี 2565 ต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ