นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกรายการโมโต จีพี ประจำปี 2564-2569 (6 ปี) ครั้งที่ 1/2565 ว่า ประเทศไทยว่างเว้นการจัดการแข่งขันรายการโมโตจีพีเป็นเวลา 2 ปีแล้ว จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะนี้ภาพรวมสถานการณ์มีแนวโน้มที่ดีขึ้น และประชาชนในประเทศได้รับการฉีดวัคซีนแล้วกว่า 80% เข็มกระตุ้นกว่า 36% รวมถึงมีความพร้อมของระบบสาธารณสุขทั้งสถานพยาบาล ยา เวชภัณฑ์ และบุคลากรการแพทย์ ซึ่งพร้อมเดินหน้าเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น
"รัฐบาลเห็นควรให้มีการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกรายการโมโต จีพีในปีนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการจัดกิจกรรม สร้างความมั่นใจกับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพื่อเกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศอีกครั้ง" นายอนุทิน กล่าว
การจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกรายการโมโตจีพีครั้งล่าสุดในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ารับชมการแข่งขันกว่า 50,000 คน และเดินทางท่องเที่ยวต่อในประเทศเมื่อจบการแข่งขัน สร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจทั้งจากการเข้าชม และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง อาทิ โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ของที่ระลึก ในจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดในภาคอีสานโดยรอบรวมกว่า 4,000 ล้านบาท
นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกรายการโมโตจีพีประจำปี 2565 ซึ่งเป็นการลงทุนในรูปแบบ Sport Tourism โดยการกีฬาแห่งประเทศไทยได้ลงนามในสัญญากับบริษัทผู้จัดการแข่งขัน เพื่อเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกรายการโมโตจีพี ประจำปี 2564-2569 แล้วเมื่อวันที่ 30 ก.ย.64 โดยในปีนี้ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพสนามที่ 18 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 ก.ย.-2 ต.ค.65 ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
สำหรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ซึ่งกระทรวงฯ เป็นหน่วยงานหลักในการดูแลได้ให้ดำเนินงานตามประกาศและข้อกำหนดของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ส่วนมาตรการในการเดินทางเข้าประเทศของผู้เข้าร่วมแข่งขัน ผู้ที่เกี่ยวข้องและนักท่องเที่ยวให้เป็นไปตามสถานการณ์และประกาศของ ศบค. โดยย้ำให้ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศต้องได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 3 เข็ม นอกจากนี้คณะกรรมการฯ ยังเห็นชอบให้ตั้งคณะอนุกรรมการด้านการรักษาพยาบาลและควบคุมโรคเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น