น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ (กสส.) รายงานว่า นายทะเบียนสหกรณ์ ได้มีคำสั่งให้คณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว สาเหตุจากกรรมการสหกรณ์ไม่ตรวจสอบยอดความเสียหายให้แล้วเสร็จภายในกำหนดของนายทะเบียน ถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ที่อาจทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้างขึ้น ซึ่งในเรื่องนี้ได้กำชับให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ ทำความเข้าใจกับสมาชิกในเรื่องสภาพคล่องของสหกรณ์แห่งนี้ ซึ่งมีอยู่มากเพื่อไม่ให้เกิดความตระหนก และแห่มาถอนเงิน
ด้าน นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 65 นายทะเบียนสหกรณ์ ได้ออกคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ ที่ (สสพ.1) 9/2565 เรื่องให้คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว (ชุดที่ 50)
นอกจากนี้ ได้มีคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ที่ (สสพ.1) 10/2565 ลงวันที่ 3 พ.ค. 65 เรื่องมอบหมายให้ผู้ตรวจการสหกรณ์ ดำเนินการแทนคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องให้แล้วเสร็จตามวิธีการและระยะเวลาที่กำหนด 30 วัน และให้สอบสวนหาผู้กระทำการทุจริต และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินฝากของสมาชิก และรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต พร้อมทั้งตรวจสอบยอดการทุจริตทั้งหมด
"กรณีนี้ ฝากแจ้งสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ ทุกท่านว่าไม่ต้องตื่นตระหนกมาถอนเงิน เนื่องจากสภาพคล่องของสหกรณ์ยังมีอยู่มาก และเมื่อชุดของผู้ตรวจสหกรณ์เข้าตรวจสอบบัญชีแล้วเสร็จ จะมีการคืนเงินเข้าบัญชีตามเงินออมจริงของท่านทุกประการ และหากการตรวจสอบไม่พบว่ามีกรรมการผู้ใดเข้าไปมีส่วนในการทุจริต ก็จะออกคำสั่งให้กลับเข้าทำหน้าที่เช่นเดิม" นายวิศิษฐ์ กล่าว
นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า คำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ ที่ (สสพ.1) 9/2565 เรื่องให้คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว โดยระบุว่า ด้วยปรากฏข้อเท็จจริงตามรายงานผลสอบกิจการและฐานะการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด ซึ่งผู้ตรวจการสหกรณ์เข้าทำการตรวจสอบสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 65 พบว่า ยอดเงินรับฝากของสมาชิกบางราย ไม่ตรงกับยอดเงินรับฝากคงเหลือในบัญชีคุมของสหกรณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่สหกรณ์อาจมีการกระทำการทุจริต ยักยอกเงินฝากสมาชิก เบื้องต้นพบความเสียหายจำนวนมาก
อย่างไรก็ดี คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ ได้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับหัวหน้าการเงินและผู้จัดการสหกรณ์ เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 65 นายทะเบียนสหกรณ์จึงได้มีคำสั่งที่ (สสพ.1) 6/2565 ลงวันที่ 4 เม.ย. 65 ให้สหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงว่ามีการทุจริตอย่างไร ผู้ใดกระทำผิดและรวบรวมหลักฐานการกระทำผิด โดยให้ดำเนินการแล้วเสร็จใน 7 วัน
ทั้งนี้ เมื่อพ้นกำหนดพบว่าสหกรณ์ยังดำเนินการไม่เสร็จสิ้นยังไม่ทราบยอดความเสียหาย ซึ่งกรณีการทุจริตพบว่ามีความเสียหายจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อสหกรณ์และประโยชน์ส่วนรวมจำนวนมาก การดำเนินการที่ล่าช้าไม่เป็นไปตามคำสั่งนายทะเบียน จึงเป็นการกระทำการหรืองดเว้นการกระทำในการปฏิบัติหน้าที่ของตน อันอาจเสื่อมเสียผลประโยชน์สมาชิก
ขณะเดียวกัน ประกอบกับมีเหตุอันสงสัยได้ ว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้กระทำการทุจริตในสหกรณ์เพิ่มเติม นายทะเบียนสหกรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้การดำเนินการสอบสวนหาผู้ใดเป็นผู้กระทำให้เกิดความเสียหายแก่สมาชิก ผู้ใดที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อให้ทราบความเสียหายทั้งหมด พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวกับการกระทำทุจริต และให้ตรวจสอบยอดเงินสมาชิกทุกราย
ดังนั้น เพื่อให้ดำเนินการโดยเร็ว จึงอาศัยอำนาจตามพรบ.สหกรณ์ พ.ศ.2542 มาตรา 22 ประกอบคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ ที่ 2/2562 เรื่องมอบอำนาจให้รองนายทะเบียนสหกรณ์ปฏิบัติหน้าที่แทนนายทะเบียนสหกรณ์ สั่ง ณ วันที่ 27 พ.ค. 62 นายทะเบียนจึงออกคำสั่งที่ (สสพ.1) 9/2565 ให้คณะกรรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชุดที่ 50 จำนวน 15 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวมีกำหนดเวลา 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งนี้ ทั้งนี้ หากกรรมการประสงค์อุทธรณ์คำสั่ง ให้ยื่นต่อกรรมการพิจารณาใน 30 วัน