นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเปิดประชุมถอดบทเรียนการดำเนินโครงการสนับสนุนด่านตรวจคนเข้าเมือง เพื่อรับมือกับความท้าทายในการข้ามพรมแดนช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ว่า การเฝ้าระวังและคัดกรองกลุ่มผู้เดินทางระหว่างประเทศเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญที่กระทรวงฯ โดยเฉพาะด่านควบคุมโรคช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศ ทั้งด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศที่สนามบิน ท่าเรือ และพรมแดนตามแนวชายแดน อันเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ส่งผลให้สามารถตรวจจับและควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงที่ผ่านมา ปัจจุบันด่านพรมแดนมีการพัฒนาให้สามารถคัดกรองดูแลผู้ติดเชื้อและให้บริการวัคซีนเพื่อเพิ่มความครอบคลุมให้ได้มากที่สุด
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้วางมาตรการรับมือโควิด-19 แบบรอบด้าน ได้แก่ 1) ด้านโครงสร้างพื้นฐานด่านพรมแดน โดยการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ การพัฒนาศักยภาพบุคลากร 2) ด้านการป้องกันควบคุมโรค โดยการประเมินความเสี่ยงของสถานการณ์ การสื่อสารความเสี่ยง การเพิ่มความครอบคลุมของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และการติดต่อประสานงาน 3) การถอดบทเรียน บูรณาการฐานข้อมูลร่วมกัน การซ้อมแผน สัมพันธภาพความร่วมมืออันดีของเจ้าหน้าที่ระหว่างหน่วยงาน และประเทศเพื่อนบ้านเพื่อรับมือกับโควิด-19
รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ประเทศไทยเริ่มผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศเช่นเดียวกับอีกหลายประเทศรอบๆ ที่มีการเปิดประเทศให้เดินทางท่องเที่ยวได้สะดวกขึ้น กระทรวงฯ จะยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์และความเสี่ยงของในและต่างประเทศ พร้อมทั้งประเมินความพร้อมและพัฒนาศักยภาพของการป้องกันควบคุมโรคของประเทศให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ในอนาคตที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู้โรคประจำถิ่นเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ