นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ Field Day 2565 โดยกล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ ให้ความสำคัญกับเกษตรกรในการผลิตสินค้าเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และมีการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม โดยสร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกรผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น งานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ในพื้นที่ของเกษตรกร
ในส่วนของการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยี มีเป้าหมายสำคัญ 2 ระดับ คือ 1. การทำให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ถึงข้อมูลที่ต้องการเผยแพร่ และ 2. การทำให้กลุ่มเป้าหมายนำข้อมูลไปใช้ และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้สอดคล้องกับความรู้ที่ได้รับ
ทั้งนี้ ด้วยสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน ประกอบกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และการแข่งขันในตลาดโลกที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ราคาสินค้าเกษตรมีความผันผวนเป็นอย่างมาก รวมถึงกลไกการค้าที่มุ่งเน้นคุณภาพและการตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตร ตั้งแต่การผลิตที่ต้นทาง และการบริโภคปลายทาง
ดังนั้น เกษตรกรจึงจำเป็นต้องมีข้อมูลและความรู้ที่ครบถ้วนอย่างรอบด้านเพื่อพร้อมรับมือ อาทิ การลดต้นทุนในกระบวนการผลิต เพื่อให้สามารถแข่งขันด้านราคาได้ดีขึ้น การเพาะปลูกตามความเหมาะสมของดิน และการปรับปรุงบำรุงดิน เพื่อให้ผลผลิตมีคุณภาพสูง การเพิ่มมูลค่าให้กับที่ดินของตน และการลดการพึ่งพากลไกราคาด้วยการทำไร่นาสวนผสม เศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ การเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรด้วยการแปรรูปผลผลิต การบริหารจัดการน้ำเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ เป็นต้น
"กิจกรรมถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ในวันนี้ จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเตรียมความพร้อมของเกษตรกร ก่อนเข้าสู่ฤดูกาลผลิตใหม่ ปี 65 เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้ ไปประยุกต์ใช้ในการปลูกสับปะรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลผลิตเพิ่มขึ้นและมีคุณภาพ สร้างผลตอบแทนให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี" นายอลงกรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ จังหวัดเพชรบุรีมีพื้นที่ปลูกสับปะรดกว่า 67,000 ไร่ ได้ผลผลิตกว่า 130,000 ตันต่อปี ส่วนใหญ่เป็นสับปะรดโรงงานป้อนให้กับโรงงานในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ซึ่งอยู่ติดกัน อย่างไรก็ดี จะมีการตั้งศูนย์สับปะรดที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตามข้อสั่งการของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นเมืองหลวงสับปะรดของโลก ในขณะที่กรมวิชาการได้พัฒนาสับปะรดโรงงาน "พันธุ์เพชรบุรี 2" สำเร็จแล้วเป็นพันธุ์ที่ให้ผลผลิตต่อไร่สูง และเริ่มเผยแพร่หน่อพันธุ์ไปยังเกษตรกรแล้ว
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้วางนโยบาย "5 ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย" ที่มุ่งกระตุ้นการสร้างเศรษฐกิจรากฐานให้กับประเทศ ตลอดจนมีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคเกษตรกรรม
ดังนั้น จึงวางแนวทางการพัฒนาภาคเกษตรกรรม 5 ยุทธศาสตร์ เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารให้บรรลุเป้าหมาย ได้แก่ ยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต, เทคโนโลยีเกษตร 4.0, "3?s" (Safety-Security-Sustainability-เกษตรปลอดภัย เกษตรมั่นคงและเกษตรยั่งยืน), การบริหารเชิงรุกแบบบูรณาการกับทุกภาคส่วน และยุทธศาสตร์เกษตรกรรมยั่งยืนตามแนวทางศาสตร์พระราชา ภายใต้ 15 นโยบายหลัก
ยกตัวอย่าง เช่น นโยบายการส่งเสริมเกษตรพันธสัญญา (Contract Farming) เพื่อสร้างความไว้วางใจและความร่วมมือในการพัฒนาศักยภาพการผลิตอย่างยั่งยืน ระหว่างเกษตรกรกับผู้ประกอบการ โดยร่วมกันยกระดับคุณภาพผลผลิตมีราคาที่เป็นธรรมสำหรับเกษตรกร และนโยบายแปลงใหญ่เป็นตัวขับเคลื่อนเดินหน้าเกษตรมูลค่าสูง มุ่งเน้นการแปรรูปผลผลิตเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ควบคู่กับการใช้องค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่
ทั้งนี้ เน้นย้ำให้เกษตรกรและหน่วยงานราชการให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยี ทั้งจากศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (AIC) รวมถึงภูมิปัญญาทัองถิ่นและศาสตร์พระราชา มาใช้ในกระบวนการผลิตทางการเกษตร เพื่อการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญ มุ่งหวังยกระดับรายได้เกษตรกร และสร้างความสามารถในการแข่งขันอย่างมั่นคงและยั่งยืน
นายอลงกรณ์ กล่าวเสริมว่า ได้ให้หน่วยงานในพื้นที่ร่วมกันดำเนินงานใน 2 โครงการใหญ่ที่กระทรวงเกษตรฯ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมกันขับเคลื่อน คือ โครงการพัฒนาเกษตรแม่นยำสู่ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม 2 ล้านไร่ และโครงการ 1 กลุ่มจังหวัด 1 นิคมอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร
"เรากำลังเร่งขับเคลื่อน 5 ยุทธศาสตร์ 15 นโยบายปฏิรูปภาคเกษตรสู่เกษตรมูลค่าสูง โดยร่วมกับ ส.อ.ท. เดินหน้าโครงการเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรใน 18 กลุ่มจังหวัด ครอบคลุมทุกจังหวัดเพื่อยกระดับรายได้เกษตรกรทั่วประเทศ" นายอลงกรณ์ กล่าว