นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.ย่าย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุว่าจัดการเสียง ส.ส.พรรคเล็ก โดยเฉพาะประเด็นท่อส่งน้ำอีอีซีได้แล้ว เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นและจังหวะก้าวย่างทางการเมือง ซึ่งต้องดูข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่าจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจจึงทำให้เกิดเรื่องราวต่างๆ เหล่านี้
พรรคเล็กโดยเฉพาะนายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้ากลุ่ม 16 และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร.ก็มีข้อมูลที่อยากมีส่วนร่วม จึงมาพูดคุยกับฝ่ายค้านเพื่อผสมผสานข้อมูลที่จะใช้ในการอภิปราย ส่วนจะระส่ำระสายหรือเคลียร์กันแล้วหรือไม่คงต้องติดตามดู แต่เท่าที่ดูการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้ หน้าที่หลักเป็นของพรรคร่วมฝ่ายค้าน
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราตั้งใจว่าข้อมูลในการอภิปรายของเราจะโน้มน้าวและชักจูงพรรคเล็กหรือพรรคที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ เมื่อเห็นข้อมูลแล้วหวังว่าจะยกมือให้กับฝ่ายค้านเพื่อแสดงออกว่าไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย ส่วนจะมีการล็อบบี้จากฝ่ายรัฐบาลหรือไม่นั้น ไม่ขอออกความเห็น
ส่วนนายพิเชษฐจะชักชวนพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคขนาดเล็กเข้ามาร่วมศึกซักฟอกครั้งนี้ด้วยหรือไม่นั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า มีแนวโน้มที่จะเป็นแบบนั้น และกรณีที่ พปชร.ตั้งคณะกรรมการสอบพิเชษฐนั้นเป็นกระบวนการภายในพรรค ส่วนผลจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ เราไม่ขอก้าวล่วง
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ออกมาเบรก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ไม่ให้มาทานข้าวกับนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พท.และพรรคเล็ก ถือเป็นการครอบงำหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นก้าวย่างทางการเมือง สื่ออาจจะมองว่าเป็นการนัดทานข้าวโดยพรรค พท. แต่ข้อเท็จจริงเป็นเพียงสมาชิกของพรรคที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการแสวงหาข้อมูลโดยตรง และมีหน้าที่ในส่วนนี้
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราไม่ได้มอบหมายหรือมีมติใดๆ เป็นกิจกรรมที่ทุกคนย่อมแสวงหาโอกาส ซึ่งอาจจะทำให้คนเข้าใจผิด ส่วน พล.อ.ประวิตรจะครอบงำหรือไม่เป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาต่อไปว่าจะเป็นการบังคับให้สมาชิกพรรคการเมืองอื่นขาดความเป็นอิสระในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองหรือไม่ และการกินข้าวร่วมกันเป็นกิจกรรมทางการเมืองหรือไม่ ต้องไปดูข้อกฎหมาย