พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าวว่า ในวันที่ 1 มิ.ย. 2565 พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า กฎหมาย PDPA จะมีผลบังคับใช้ ซึ่งกฎหมายดังกล่าวเป็นมีเจตนารมณ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้ถูกนำไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ และเพื่อป้องกัน แก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดสิทธิ และข้อมูลส่วนบุคคลที่ประชาชนอาจเกิดความวิตกกังวล
อย่างไรก็ตาม สตช.พบว่าประชาชนบางส่วนยังขาดความเข้าใจในตัวกฎหมาย นอกจากนี้ได้มีการส่งต่อข้อความที่มีความคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าวทางสื่อสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดความสับสนและเข้าใจผิดต่อกฎหมายดังกล่าว
สตช.จึงขอประชาสัมพันธ์ในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายดังกล่าว ดังนี้
1.การถ่ายภาพหรือคลิปวิดีโอที่ติดภาพของบุคคลอื่นโดยไม่เจตนา และไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายกับบุคคลที่ถูกถ่าย หากใช้เพื่อวัตถุประสงค์ส่วนตัว สามารถทำได้
2.การโพสต์ภาพหรือคลิปวิดีโอที่ติดภาพของบุคคลอื่นในสื่อสังคมออนไลน์ หากทำเพื่อวัตถุประสงค์ส่วนตัว ไม่แสวงหากำไรทางการค้าและไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย สามารถทำได้
3.การติดกล้องวงจรปิดภายในบ้าน ไม่จำเป็นต้องมีป้ายแจ้งเตือน หากติดเพื่อป้องกันอาชญากรรมและรักษาความปลอดภัย
4.การทำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ ไม่จำเป็นต้องขอความยินยอมก่อน ในกรณีดังนี้
4.1. เป็นการทำตามสัญญา
4.2.เป็นการใช้ที่มีกฎหมายให้อำนาจ
4.3.เป็นการใช้เพื่อรักษาชีวิต หรือร่างกายของบุคคล
4.4.เป็นการใช้เพื่อการค้นคว้าวิจัยทางสถิติ
4.5.เป็นการใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ
4.6.เป็นการใช้เพื่อปกป้องประโยชน์ หรือสิทธิของตน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นกฎหมายใหม่ ที่เพิ่งจะมีการบังคับใช้ ดังนั้นอาจจะมีการประชาสัมพันธ์รายละเอียด ข้อปฏิบัติของกฎหมายดังกล่าว เพิ่มเติมในโอกาสต่อไป
สตช.ยังขอความร่วมมือไปยังประชาชนให้งดส่งต่อข้อมูลที่มีความคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าว เพราะอาจทำให้ถูกผู้ไม่หวังดีอาศัยความเข้าใจผิดดังกล่าวไปแสวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย