น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากที่กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้มีมาตรการลดหย่อนหนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือและให้โอกาสผู้กู้ยืมเงินที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งได้ขยายระยะเวลามาแล้ว 1 ครั้ง และจะสิ้นสุดระยะเวลาที่ขยายในวันที่ 30 มิ.ย.65 นั้น รัฐบาลจึงขอเชิญชวนผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการชำระหนี้ ติดต่อเพื่อรับประโยชน์จากมาตรการก่อนระยะเวลาดังกล่าวจะสิ้นสุดลง
สำหรับประโยชน์จากมาตรการที่ กยศ.จะให้ถึง 30 มิ.ย.นี้ ได้แก่ ลดเงินต้น 5% สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้และต้องการปิดบัญชีในคราวเดียว, ลดเบี้ยปรับ 100% สำหรับผู้กู้ยืมเงินทุกกลุ่มที่ชำระหนี้ปิดบัญชี โดยกรณีผู้กู้ที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี ชำระได้ที่ธนาคารกรุงไทย และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขา ส่วนผู้กู้ยืมที่ถูกดำเนินคดีแล้ว ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิและนัดหมายวันที่ประสงค์จะชำระหนี้ปิดบัญชีได้ที่ https://www.studentloan.or.th/promotion ซึ่งกรณีนี้ ผู้กู้เงินต้องชำระค่าทนายความ และค่าฤชาธรรมเนียมศาลให้เสร็จสิ้นก่อนปิดบัญชี
นอกจากนี้ กยศ. ยังลดเบี้ยปรับ 80% สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ และที่ กยศ. ดำเนินการให้อัตโนมัติโดยผู้กู้ไม่ต้องแจ้งเพื่อเข้าร่วมมาตรการคือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากเดิม 1% ต่อปี เป็น 0.01% ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่าหน่วยงานต่างๆ ได้ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือเพื่อแบ่งเบาและแก้ไขหนี้สินครัวเรือนให้กับประชาชนตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่กำหนดให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งในส่วนของกระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมบังคับคดี ร่วมกับ กยศ. และสถาบันการเงินต่างๆ จัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนทั่วประเทศ ช่วยเหลือประชาชนรวมถึงลูกหนี้ กยศ. ไกล่เกลี่ยหนี้ทั้งก่อนฟ้องและหลังฟ้อง โดยตั้งแต่เดือน ก.พ. จนถึงปัจจุบันได้จัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ฯ ไปแล้ว 19 ครั้ง ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 14,538 ราย ทุนทรัพย์ 3,461 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากความสำเร็จของโครงการและเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายนายกรัฐมนตรี กระทรวงยุติธรรม ได้ขยายพื้นที่และจำนวนการจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ฯ เพิ่มขึ้นเป็นให้ครบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ จากเดิมที่จะสิ้นสุดการจัดโครงการในช่วงกลางปี ได้ขยายไปถึงเดือน ส.ค. 65