นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพหานคร (กทม.) เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 7/2565 โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ซึ่งวันนี้มีระเบียบวาระการประชุม 4 เรื่อง ได้แก่ 1. ความคืบหน้าการบริหารจัดการสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่กรุงเทพฯ 2. สถานะการเงินการคลัง และการงบประมาณประจำปีงบประมาณ 65 และการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 3. การเชื่อมโยงนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกับยุทธศาสตร์การพัฒนากรุงเทพมหานคร และ 4. ความก้าวหน้าการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียต้นทางในคลองแสนแสบ คลองเปรมประชากร และคลองลาดพร้าว
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 ได้คลี่คลายลง มีการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ เพิ่มขึ้น อัตราการฉีดวัคซีน อัตราการเสี่ยงก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง อีกไม่นานก็กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ส่วนการถอดหน้ากากอนามัย จะนำเข้าพิจารณาในที่ประชุม ศบค.กทม. อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก็ใกล้แล้วที่จะถอดหน้ากากในที่สาธารณะ แต่ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเข้มข้นต่อไป รวมถึงการพูดคุยเรื่องฝีดาษลิง ดูจากตัวเลขแล้วยังไม่พบการติดต่อของโรค ซึ่งการติดต่อจะเป็นคนละลักษณะกับโควิด-19
ส่วนเรื่องงบประมาณปี 66 ก็ต้องรีบทำให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า จากนั้นจะส่งให้สภากทม.พิจารณา ซึ่งบางส่วนได้ดำเนินการแล้ว และจะได้พิจารณาว่าเข้ากับยุทธศาสตร์ของเราอย่างไร
"ในส่วนงบประมาณ ไม่ได้กังวล ไม่ได้ใช้เงินในช่วงนี้ เพราะเราไม่ได้ตั้งใจเข้ามาใช้เงินเป็นจำนวนมาก" ผู้ว่าฯ กทม.ระบุ
สำหรับยุทธศาสตร์ แผน 214 ข้อ ที่ได้ทำไปบ้างแล้วนั้น สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล วิเคราะห์แล้วว่า แผนค่อนข้างสอดคล้องกับนโยบายที่กทม. ดำเนินการอยู่ ก็มาทำให้มีความชัดเจนขึ้น ซึ่งไม่ได้มีความกังวลใด ๆ ส่วนใหญ่สามารถทำได้เลย หน่วยงานใดที่มีงบประมาณส่วนนี้อยู่แล้ว ก็สามารถเอามาใช้ได้เลย มีหลายโครงการที่สอดคล้องกันอยู่ ส่วนโครงการที่ไม่ได้เตรียมงบประมาณไว้ อาจจะต้องบรรจุไว้ในปี 66
"วันนี้เรามีนโยบายเรื่องทำ Zero-Based Budgeting คือ การทำงบประมาณจากฐานศูนย์ พยายามดูประสิทธิภาพในการทำงบประมาณ ถือว่าเป็นการเริ่มหนึ่งในนโยบายที่เราเสนอแล้ว ช่วงอาทิตย์นี้ก็เป็นเรื่องความเข้มข้น และการเตรียมงบประมาณปี 66" นายชัชชาติ ระบุ
ส่วนการเตรียมเรื่องการบำบัดน้ำเสียลงคลองนั้น ในปัจจุบันมีชุมชนที่อยู่ริมคลองจำนวนมาก และหลายชุมชนปล่อยน้ำเสียลงคลอง ซึ่งเป็นต้นเหตุหนึ่งของการเกิดน้ำเสีย ดังนั้นจึงมีแนวคิดที่จะเริ่มทำตัวการบำบัดน้ำเสียในพื้นที่ชุมชนให้มากขึ้น
"ทางสำนักงบประมาณก็เสนอโครงการมา เริ่มทำโครงการนำร่องบางจุดแล้วให้เห็นในภาพรวม เพราะว่าคงไปรอบำบัดน้ำเสียรวมให้เสร็จภายใน 11 ปียาก ต้องทำ on-site เพิ่มเพื่อเพิ่มคุณภาพน้ำทั้งในคลองเปรมประชากร คลองลาดพร้าว และคลองแสนแสบก่อน" ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว
พร้อมระบุว่า ช่วงบ่ายนี้ หลังจากประชุมสภากทม.เสร็จแล้ว จะไปเยี่ยมองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) โดยจะมีข้อสั่งการให้ผู้บริหารสำนักทุกสำนัก สำนักงานเขตทุกเขต ไปสำรวจจุดอ่อนช่องโหว่ภายในหน่วยงาน เสนอวิธีแก้ไขการทุจริตคอร์รัปชันขึ้นมาว่ามีแนวคิดอย่างไร ที่ผ่านมามีช่องโหว่ตรงไหน การจัดซื้อจัดจ้าง นำมารวมกันกับเราทำเป็นแผนรวมดำเนินการแก้ไข เพื่อทำให้หน่วยงานมีความโปร่งใสมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ซับซ้อนอะไร
"หน่วยงานต้องยอมรับในตัวเองก่อน จะได้รู้ว่ามีปัญหาตรงไหน แล้วเรามาช่วยกันแก้ไข ฝากไว้เป็นการบ้านให้ทุกคนได้ช่วยกัน ผมว่าเป็นเรื่องสำคัญ ให้เวลาอาทิตย์หนึ่ง" ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว