นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข (สธ.) ชี้แจงกรณีที่ชมรมแพทย์ชนบทระบุว่าประเทศไทยสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 มากเกินความต้องการ และเสนอให้ชะลอการจัดซื้อว่า ทางกระทรวงฯ มีการประชุม EOC ทุกวัน มีอาจารย์แพทย์ มีผู้เชี่ยวชาญ มีคณะกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค มีคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ซึ่งทุกอย่างทำด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการให้เกิดความปลอดภัยทั้งประเทศ ชมรมแพทย์ชนบทส่วนใหญ่ก็เป็นแพทย์ในสังกัด สธ. หากมีข้อเสนออะไรก็สามารถบอกกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ผู้ตรวจราชการฯ ในฝ่ายที่ตัวเองสังกัดได้ เพื่อนำเสนอเข้าที่ประชุม EOC ที่ปลัด สธ.ประชุมเป็นประจำอยู่แล้ว
"ตอนนี้ แต่ละคนก็มีบทบาทที่ต้องทำ ขอให้ทำให้ดีที่สุด แน่นอนว่าผู้บริหารพร้อมรับฟังข้อเสนอจากทุกฝ่าย และก็พร้อมชี้แจงเมื่อจำเป็น เราพยายามตอบสนองความต้องการให้ดีที่สุด การจัดหาวัคซีน เรามีหลักการเรื่องความมั่นคงด้านสาธารณสุขด้วย ถามว่า ถ้าสั่งวัคซีนมาให้เท่ากับจำนวนคนเลยได้หรือไม่ แล้ววัคซีนที่ได้มาก็ไม่ใช่สิ่งที่เราซื้ออย่างเดียว แต่มีคนบริจาคมาให้ด้วยหลายสิบล้านโดส ถามว่าเราจะปฏิเสธไหม เวลาที่พูดต้องดูว่าแต่ละช่วงเวลาเป็นอย่างไร เรามีความตั้งใจทำให้เกิดความมั่นใจ และทุกวันนี้ที่บอกว่าจะถอดหน้ากากกัน จะใช้ชีวิตปกติกัน เปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ เปิดสถานบันเทิง ใช้ชีวิตเต็มที่ เข้าออกประเทศสะดวก ก็เพราะการฉีดวัคซีนใช่หรือไม่ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าจะฉีดคนละกี่เข็มถึงจะพอ บางคน 5 เข็ม ตอนนี้เราพยายามอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการวัคซีน เพราะวัคซีนคือเครื่องมือสำคัญในการปิดเกม" นายอนุทิน กล่าว
ส่วนกรณีที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เตรียมเสนอ ศบค.ให้มีการถอดหน้ากากอนามัยในที่โล่งแจ้งนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงฯ มีการพูดคุยเรื่องนี้แล้วเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ปลัดกระทรวงฯ ก็เพิ่งให้ข่าวไป แต่จะทำได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ศบค.ชุดใหญ่ ที่จะต้องมีการพิจารณากลั่นกรองเบื้องต้นจาก ศปก.ศบค.ก่อน
เรื่องนี้ยังมีความกังวลจากหลายฝ่ายว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมหรือไม่ แต่เมื่อท่านผู้ว่าฯ กทม.มาสำทับอีกที ก็ต้องเสนอไปที่ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เพื่อกลั่นกรองก่อน ก่อนให้ ศบค.ชุดใหญ่พิจารณา
"ที่สุดแล้ว การสวมหน้ากากเป็นเรื่องการป้องกันและรักตัวเอง ต่อให้ไม่มีโควิด แต่ที่เราสวมมาระยะหนึ่งแล้ว ก็เห็นว่าช่วยป้องกันได้หลายอย่าง ฉะนั้นใครประเมินแล้วมีความปลอดภัย เช่น ที่สาธารณะ อยู่กับใครที่เรารู้จักว่าปลอดภัยก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่หากอยู่กันหลายคน หรือสถานที่ต่างๆ เช่น โรงพยาบาล หากเราจะสวมหน้ากากก็ไม่เสียหาย เพราะเป็นการป้องกันตัวเอง เพราะขณะนี้ก็ยังมีรายงานติดเชื้อ" นายอนุทิน กล่าว