พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เปิดเผยว่า ในวันนี้จะมีการเสนอประเด็นต่าง ๆ เข้าที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการร์โควิด-19 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เกี่ยวกับการพิจารณาปรับให้มีการผ่อนคลายให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตและประกอบอาชีพได้ใกล้เคียงภาวะปกติให้มากที่สุดอย่างปลอดภัยภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค และมีแผนด้านสาธารณสุขรองรับในทุกพื้นที่ เช่น การปรับพื้นที่สถานการณ์ให้เป็นพื้นที่ตามมาตรการสีเขียว (มาตรการเฝ้าระวัง) ให้มากที่สุด การผ่อนคลายการเปิดกิจการและสถานบริการกลางคืนที่มีความเสี่ยงให้ดำเนินการได้ใกล้เคียงกับภาวะปกติให้มากที่สุดอย่างปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนที่เป็นห่วงโซ่การประกอบอาชีพด้านนี้ได้มีงานทำและมีรายได้
นอกจากนี้จะเสนอให้มีการปรับมาตรการเข้าออกประเทศที่เกี่ยวข้องกับระบบ Thailand Pass ให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้นให้สอดคล้องกับผลการประเมินที่พบว่ามีความเสี่ยงต่ำมาก และเอื้อต่อการจูงใจนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจต่างชาติที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวและทำธุรกิจในประเทศไทยด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้าขายตามแนวชายแดนทั้งที่เป็นจุดผ่านแดนถาวร หรือจุดผ่อนปรนทางการค้าตามแนวชายแดน รวมทั้งการท่องเที่ยวผ่านเรือสำราญขนาดเล็กและขนาดใหญ่ด้วย
ส่วนการยกเลิกสวมหน้ากากอนามัยนั้น พล.อ.สุพจน์ ยอมรับว่า ได้พิจารณาเสนอให้มีการผ่อนคลายให้ไม่ต้องสวมหน้ากากในสถานที่หรือกิจกรรมบางประเภทได้โดยสมัครใจภายใต้ข้อแนะนำด้านสาธารณสุขอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเป็นขั้นเป็นตอน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับส่วนรวมด้วย
ส่วนในเรื่องวัคซีน ทางกระทรวงสาธารณสุข จะเสนอแผนการบริหารจัดการวัคซีนและมาตรการรณรงค์ให้ประชาชนได้รับวัคซีนได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เพื่อให้มีความปลอดภัยและไม่เจ็บป่วยรุนแรงเมื่อได้รับเชื้อ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงแต่ละประเภทต่าง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลเป็นห่วงมากที่สุด
พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า การดำเนินการตามที่กล่าวมาได้ดำเนินการให้มีความสอดคล้องกับการประเมินสถานการณ์ในปัจจุบันในทุกมิติ รวมทั้งแผนการเปลี่ยนผ่านสู่ระยะ Post-Pandemic หรือ โรคประจำถิ่น โดยได้มีการประเมินสถานการณ์รอบ 10 วัน และสถานการณ์ภาพรวมที่ผ่านมา โดยจัดทำข้อเสนอให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณามาเป็นลำดับ ควบคู่กับนโยบายด้านการป้องกันการแพร่ระบาดที่กระทรวงสาธารณะสุขดำเนินการอยู่ด้วย
อย่างไรก็ตามขอยังไม่เปิดเผยในรายละเอียดเพื่อป้องกันความสับสน และขอให้ผ่านการพิจารณาจากที่ประชุม ศบค.ก่อน ทั้งนี้ความสำเร็จในการเปิดประเทศ การเดินหน้าระบบเศรษฐกิจทุกระดับในประเทศ ตลอดจนการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างปลอดภัย เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างสูงสุด หากประชาชน และองค์กรทุกภาคส่วนได้ตระหนักและร่วมมือกันดำเนินชีวิต ดำเนินกิจกรรม/กิจการ ภายใต้มาตรการและข้อแนะนำด้านสาธารณะสุข ก็มั่นใจได้ว่าเราจะสามารถอยู่กับโควิดได้และเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างปลอดภัย