นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง เปิดเผยว่า ที่ประชุม กมธ.ได้หารือถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ในช่วงสุญญากาศที่ยังไม่มีกฎหมายออกมาบังคับใช้ โดยขอขอบคุณสื่อมวลชนและสถานศึกษาที่ร่วมทำความเข้าใจเรื่องการใช้กัญชาที่ห้ามใช้ในเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งร่าง พ.ร.บ.นี้ มีการควบคุมการใช้ที่สอดรับกับประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ออกมาด้วย ดังนั้นขอให้ประชาชนและสถานศึกษาคลายกังวล เพราะทาง กมธ.รับรู้ไม่ต่างกัน
ขณะที่มีการเข้าถึงแอปพลิเคชั่น และเว็บไซต์ "ปลูกกัญ" กว่า 39 ล้านครั้ง และมีผู้จดแจ้งขอปลูกไม่น้อยกว่า 9 แสนราย ทั้งนี้ กมธ.เสียงข้างมากได้วางหลักการและกรอบการปลูกในครัวเรือนว่า ให้ปลูกได้ไม่เกิน 10 ต้นต่อครัวเรือน โดยมีเจตนารมณ์เพื่อส่งเสริมให้คนตัวน้อยได้ประโยชน์สูงสุดจากกัญชา และเป็นไปเพื่อลดความเหลื่อมล้ำของสังคม โดยให้เสียค่าใช้จ่ายน้อยสุด
ทั้งนี้ กมธ.ได้กำหนดการปลูกทางเศรษฐกิจเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.ขนาดเล็ก ปลูกไม่เกิน 5 ไร่ โดยจะลดค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายให้น้อยที่สุด หรือไม่ควรไม่มีเลย 2.ขนาดกลาง ประมาณ 5-20 ไร่ มีขั้นตอนการขออนุญาตเพิ่มขึ้นมาพอประมาณ และ 3.ขนาดใหญ่ มากกว่า 20 ไร่ขึ้นไป ถือเป็นกลุ่มผู้ลงทุนที่หวังผลทางธุรกิจ จึงต้องมีผลตอบแทนให้รัฐมากขึ้น
นายปานเทพ กล่าวว่า ส่วนการใช้ประโยชน์กัญชาทางการแพทย์ ทาง กมธ.เห็นพ้องว่าการปลูกกัญชาของทั้งแพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์แผนไทย และผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์อื่นๆ จะได้รับการคุ้มครองในฐานะเพียงจดแจ้งเท่านั้น และจะเหมือนกับผู้ประกอบการขนาดเล็ก ยืนยันว่า กมธ.จะพิจารณากฎหมายฉบับนี้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทุกคน และเป็นไปเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจประเทศให้มากที่สุด