นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 22-26 มิ.ย.65 จะมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ จึงได้กำชับไปยังโครงการชลประทานทั่วประเทศ ให้บริหารจัดการน้ำอย่างประณีตเพื่อให้การบริหารน้ำท่าเกิดประโยชน์สูงสุด เน้นย้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศ ต้องเพียงพอตลอดทั้งปี
โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง ให้เป็นไปตามหลักวิชาการ โดยควบคุมปริมาณน้ำในอ่างฯ ให้อยู่เกณฑ์ควบคุมและสอดคล้องกับสถานการณ์ รวมไปถึงการบริหารจัดการน้ำในแต่ละพื้นที่ ให้เกษตรกรสามารถเพาะปลูกข้าวได้อย่างทั่วถึง และเตรียมพร้อมรับมือน้ำหลากที่อาจจะเกิดขึ้น หมั่นกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันกำจัดผักตบชวาไม่ให้ไหลลงไปสะสมในแม่น้ำสายหลัก และขอให้สำรวจพื้นที่ก่อสร้างที่มีน้ำไหลผ่าน ให้ดำเนินการจัดทำทางเบี่ยงน้ำให้สามารถไหลผ่านพื้นที่ก่อสร้างได้ เท่ากับปริมาณน้ำที่เคยไหลผ่านเดิม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเมื่อมีสถานการณ์วิกฤตน้ำมาก รวมทั้งประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนถึงสถานการณ์น้ำให้ประชาชนรับรู้รับทราบอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง
สำหรับภาพรวมสถานการณ์น้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ การบริหารจัดการน้ำเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ โดยอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกัน 41,670 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็น 55% ของความจุอ่างฯ ยังสามารถรับน้ำได้อีก 34,415 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 9,953 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 40% ของความจุอ่างฯ สามารถรับน้ำได้อีก 14,918 ล้าน ลบ.ม.