นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงข้อห่วงใยเกี่ยวกับกัญชาเสรีทางการแพทย์ สุขภาพ และส่งเสริมเศรษฐกิจ อาจทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชาโดยไม่รู้ตัวว่า มีกฎหมายกำหนดให้ร้านอาหารต้องติดป้ายแจ้งการใช้ "กัญชา" เป็นส่วนผสมในอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งกรมอนามัยได้ออกประกาศฯ เรื่อง การนำใบกัญชามาใช้ในการทำประกอบหรือปรุงอาหารในสถานประกอบกิจการอาหาร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2565 กำหนดให้ร้านอาหารต้องจัดทำข้อมูลแจ้งเตือนลูกค้า ทั้งข้อความแสดงว่าเป็นสถานประกอบกิจการอาหารที่มีการใช้กัญชา, แสดงเมนูที่ใช้ใบกัญชาทั้งหมดพร้อมปริมาณที่ใช้ โดยมีข้อแนะนำการใช้ใบกัญชาในการปรุงประกอบอาหาร คือ อาหารทอดใช้ใบกัญชาสด 1-2 ใบต่อเมนู ประเภทผัด แกง ต้ม, ผสมในเครื่องดื่มใช้ใบกัญชาสด 1 ใบต่อเมนู
นอกจากนี้ยังกำหนดให้แสดงข้อแนะนำเพื่อความปลอดภัยในการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีใบกัญชาเป็นส่วนประกอบ แสดงคำเตือน คือ เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร ไม่ควรรับประทาน, หากมีอาการผิดปกติ ควรหยุดรับประทานทันที, ผู้ที่แพ้หรือไวต่อสาร THC หรือ CBD ควรระวังในการรับประทาน, อาจทำให้ง่วงซึมได้ ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะ หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล เพื่อป้องกันกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ไม่ให้เข้าถึงการใช้กัญชา รวมถึงยังห้ามแสดงข้อความหรือโฆษณาสรรพคุณในการป้องกันหรือรักษาโรคด้วย
"ทั้งหมดเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เมื่อเข้าร้านอาหารแล้วจะต้องได้รับข้อมูลว่าร้านนี้ใช้กัญชาทำอาหารหรือไม่ ใช้ในเมนูอะไร ส่วนผสมมากน้อยแค่ไหน ทำให้สามารถตัดสินใจด้วยตนเองว่าจะบริโภคหรือไม่ สำหรับ ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่ออกสู่ตลาด ก่อนที่ อย.จะอนุมัติ ได้มีการตรวจสอบสูตรแล้วว่ามีส่วนผสมของกัญชาไม่เกินค่าที่กำหนดที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ไม่เกิดผลต่อระบบประสาทและสมอง โดยกำหนดสาร THC 1.6 มิลลิกรัม/Pack และรับประทานสาร THC ได้ไม่เกิน 3.2 มิลลิกรัมต่อวัน และบนฉลากของผลิตภัณฑ์ต้องมีข้อมูลคำเตือนเช่นกัน" นพ.รุ่งเรือง กล่าว