นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศทั้งระบบครบวงจร เน้นย้ำสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) บูรณาการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดขับเคลื่อนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่และโครงการสำคัญให้แล้วเสร็จตามเป้าหมาย เพื่อสนับสนุนน้ำอุปโภค-บริโภค การเกษตร อุตสาหกรรม และระบบนิเวศ โดยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและแนวพระราชดำริมาขับเคลื่อน รวมทั้งเร่งดำเนินการจัดทำแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้งและแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วมทั้ง 22 ลุ่มน้ำ ให้เชื่อมโยงและบูรณาการกับแผนงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วมในปี 2565 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้มีการเตรียมแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม ปี 2565 ไว้แล้ว ได้แก่ 1) (ร่าง) แผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม ที่ สทนช. จัดเตรียมไว้เบื้องต้น 2) 13 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2565 3) แผนปฏิบัติการของหน่วยงานภายใต้ 13 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2565 และ 4) แผนการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน
"นายกรัฐมนตรี ยังย้ำถึงแผนปฏิบัติการต้องชัดเจน และมีแผนเผชิญเหตุ ทั้งในเรื่องการเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก มีการปรับปรุงสิ่งกีดขวางทางน้ำ การกำจัดผักตบชวา และการเตรียมพื้นที่ลุ่มต่ำเพื่อรองรับน้ำหลาก รวมถึงการแจ้งเตือนและให้ความช่วยเหลือประชาชนเมื่อประสบเหตุให้เร็วที่สุด รวมทั้งต้องมีการวางแผนการเก็บน้ำสำรองไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง ตลอดจนการปรับปรุงแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคต เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศเกิดประสิทธิภาพตามเป้าหมายที่กำหนด" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว