ศาลปกครองกลางพิพากษามติที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่ยกเลิกการประกวดราคา และประกาศของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ยกเลิกการประกวดราคาโครงการดังกล่าว เมื่อวันที่ 3 ก.พ.64 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ดังนั้น จึงพิพากษาเพิกถอนมติของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ที่ให้ยกเลิกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนระหว่างภารัฐและเอกชน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ลงวันที่ 3 ก.ค.63 และมติที่ได้ยกเลิกการคัดเลือกเอกชนตามประกาศเชิญชวนดังกล่าว และ ศาลฯให้เพิกถอนประกาศของ รฟม.เรื่องยกเลิกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนเมื่อวันที่ 3 ก.พ.64
อย่างไรก็ตาม ศาลปกครองกลางไม่รับคำของของ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ที่ขอให้ศาลมีข้อสังเกตเกี่ยวกับแนวทางหรือวิธีการดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษา โดยห้ามคณะกรรมการคัดเลือกฯ และ รฟม.ใช้เอกสารสำหรับการเลือกตั้งเอกชนฉบับใหม่ แล้วให้กลับไปคัดเลือกเอกชนตามหลักเกณฑ์วิธีการตามเอกสารฉบับเดิม
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ BTSC ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ในกลุ่ม บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) เปิดเผยว่า หลังจากนี้ ตามขั้นตอนของกฎหมาย รฟม.สามารถยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาได้ภายใน 30 วัน
ขณะที่การประกวดราคารอบใหม่ ปัจจุบัน BTS ก็เข้าร่วมซื้อซองเอกสาร แต่ยอมรับว่าหลักเกณฑ์คัดเลือกด้านคุณสมบัติในการประมูลรอบนี้แตกต่างจากเกณฑ์รอบแรกอย่างมาก ดังนั้น จากคำพิพากษาของศาลปกครองกลางในวันนี้ที่ชี้ว่าการยกเลิกประมูลครั้งก่อนเป็นผลจากการเปลี่ยนหลักเกณฑ์คัดเลือกที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็จะต้องรอดูว่า รฟม.จะดำเนินการอย่างไร และใช้หลักเกณฑ์ใด
นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า คำพิพากษาของศางปกครองกลางวันนี้ ชี้ให้เห็นว่าการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนในการประมูลครั้งแรกนั้นยังไม่เสร็จสิ้นกระบวนการ เพราะเพิกถอนคำสั่งยกเลิกประมูลครั้งก่อนไปแล้ว ซึ่งโดยปกติแล้วโครงการเดียวก็ต้องมีการประมูลในครั้งเดียว และใช้หลักเกณฑ์เดียว ดังนั้นการกระมูลรอบใหม่ที่ รฟม.กำลังจะเปิดรับซองเอกสารจากเอกชนในวันที่ 27 ก.ค.นี้จะดำเนินการอย่างไร คงต้องรอดูการพิจารณาจาก รฟม.อีกครั้ง เพราะถือว่าปัจจุบันการประมูลครั้งแรกยังไม่แล้วเสร็จ แม้ว่าจะมีการคืนซองข้อเสนอของเอกชนไปบ้างแล้ว แต่ศาลฯ ก็ชี้แนะว่าการประมูลรอบใหม่ก็ยกเลิกได้แต่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
"ศาลให้ความยุติธรรมว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย หลังจากนี้ก็เหลือคดีทางอาญาที่ศาลมีคำสั่งนัดในวันที่ 27 ก.ย.นี้ การตัดสินครั้งนี้เราก็ดีใจ เพราะถือเป็นเรื่องที่ดี เป็นการสร้างบรรทัดฐานการประมูล เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเราจะชนะหรือแพ้ แต่อยากให้การประมูลเป็นไปด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม และตรวจสอบได้"นายสุรพงษ์ กล่าว