(เพิ่มเติม) นายกฯ เตือนอย่าซื้อยารักษาโควิดกินเองเสี่ยงอันตราย ยันในระบบมีเพียงพอ

ข่าวทั่วไป Monday July 11, 2022 13:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้พบกระแสการโฆษณาแอบอ้างขายยารักษาอาการป่วยโรคโควิด-19 ในตลาดมืด หรือการจำหน่ายนอกระบบที่ผิดกฎหมาย เช่น โมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) โดยขอประชาชนอย่าหลงชื่อซื้อยามารับประทานด้วยตัวเอง และไม่อยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ ซึ่งมีความน่ากังวลว่า การใช้ยาโดยไม่มีแพทย์สั่งอาจจะเกิดอันตรายต่อผู้ใช้ ทั้งการใช้ยาที่มากเกินขนาด และอาจทำให้เกิดการดื้อยา หรือทำให้เกิดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ ๆ

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงและฝากเตือนประชาชน อย่าซื้อยานอกระบบจากตลาดมืดหรือทางออนไลน์มารับประทานเอง เนื่องจากมีความเสี่ยงไม่ปลอดภัย หากติดเชื้อโควิด-19 ขอให้เข้าสู่การรักษาตามระบบเพื่อความปลอดภัย เพราะการกินยาโดยไม่ได้อยู่ในความดูแลของแพทย์อาจทำให้เกิดอันตราย โดยแพทย์จะประเมินอาการผู้ป่วยเพื่อสั่งจ่ายยาตามแนวทางเวชปฏิบัติทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นฟ้าทะลายโจร, ฟาวิพิราเวียร์, โมลนูพิราเวียร์ หรือแพ็กซ์โลวิด พร้อมทั้งยืนยันว่า ระบบสาธารณสุขไทยมีเวชภัณฑ์เพียงพอสำหรับดูแลประชาชน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พบว่า สถานการณ์ยอดผู้ป่วยปอดอักเสบเริ่มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้มีผู้ป่วยอาการรุนแรงเพิ่มตามสัดส่วนไปด้วย จึงขอความร่วมมือให้กลุ่มเสี่ยง 608 เข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ซึ่งอาจยังมีความเชื่อที่ผิดว่า แม้ฉีดวัคซีนหลายเข็มแต่ยังติดเชื้อ ทำให้ไม่มารับวัคซีน แต่ต้องย้ำว่าวัคซีนเข็มกระตุ้น จะช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ ควบคู่กับการปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันตัวเอง 2U คือ Universal prevention และ Universal vaccination ด้วย

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ยืนยันว่า ขณะนี้มีปริมาณยาฟาวิราเวียร์ และยาโมลนูพิราเวียร์ ทั้ง 2 ตัวเพียงพอต่อความต้องการ เพราะเป็นยาที่องค์การเภสัชกรรมสามารถผลิตได้เอง แต่ที่ผู้ป่วยบางรายได้ใช้ บางรายไม่ได้ใช้ บางรายได้ใช้ยาฟ้าทะลายโจร เนื่องจากเป็นไปตามหลักเกณฑ์การรักษา ซึ่งมีข้อกำหนดชัดเจนที่พิจารณาโดยแพทย์ ไม่ใช่ว่าไม่มียาตัวนี้ เลยเอาอีกตัวมาแทน

ส่วนกรณีที่มีโรงพยาบาลเอกชนบางแห่งขายแพ็คเกจรักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยมียาฟาวิราเวียร์ หรือยาโมลนูพิราเวียร์ รวมอยู่ด้วย ว่า ยาทั้ง 2 ตัวนี้เป็นยาที่รัฐบาลสนับสนุน เพื่อบริการผู้ป่วยตามสิทธิ์การรักษา ถือว่าเป็นสวัสดิการ จะนำมาจำหน่ายไม่ได้ แต่ที่ปรากฏในแพ็คเกจการขายเข้าใจว่า ราคาที่เพิ่มขึ้นมา น่าจะเป็นการให้บริการส่วนอื่น ไม่เกี่ยวกับยา ซึ่งอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) จะลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าทำได้หรือไม่ หรือกรอบไหนทำไม่ได้ ก็จะมีการตรวจสอบให้ชัดเจน ทั้งนี้โรงพยาบาลมีสิทธิในการขายความสะดวกสบาย แต่หากประชาชนมีข้อสงสัยให้ติดต่อเข้ามาสอบถามที่ สบส.ได้

นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับจำนวนผู้ป่วยที่สูงขึ้นนั้นเป็นไปตามที่คาดเอาไว้ เมื่อเปิดให้กิจกรรมต่างๆ ดำเนินไปได้ ให้เศรษฐกิจเดินหน้า มีการรวมกลุ่มของประชาชน โอกาสติดเชื้อต้องเพิ่มขึ้น แต่ที่ต้องระวังคือ จำนวนผู้ป่วยหนัก จำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้าโรงพยาบาล ซึ่งจากการรายงานเข้ามา อยู่ในจุดที่รับมือได้

"ปีนี้ไม่ซีเรียสเหมือนปีที่แล้ว เพราะทุกคนได้รับวัคซีน หากรับอย่างน้อย 3 เข็มขึ้นไปก็จะลดอาการรุนแรงเสียชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องเน้นย้ำ ส่วนการติดเชื้อเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ เพราะเราเปิดประเทศ มีการเดินทาง แต่หากประชาชนยังตระหนัก สวมหน้ากากอยู่ การเดินทางสัญจรไปมาก็ไม่น่าก่อให้เกิดปัญหาที่กระทบสาธารณสุข การติดเชื้อ ถ้ามีปาร์ตี้ เปิดผับบาร์ สังสรรค์รวมกลุ่มคนมากมาย มีดนตรี มีหนังกลางแปลง หากมีความระมัดระวังก็จะควบคุมสถานการณ์ได้ เราเน้นที่ไม่ให้เกิดอาการรุนแรงมาก เพราะมีความสำคัญมาก" นายอนุทิน กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ