พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์โควิด-19 ที่มีการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ BA.4/BA.5 ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นว่า ได้มีการพูดคุยกับทางกระทรวงสาธารณสุขแล้ว พบว่าแม้จะติดเชื้อได้ง่ายขึ้นและแพร่เชื้อเร็ว แต่อันตรายไม่มากนัก โดยหากได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนความเสี่ยงจะลดลง
ขณะเดียวกัน ที่พบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อจากการตรวจ ATK มากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะรักษาตัวที่บ้าน เช่นเดียวกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ที่ติดเชื้อโควิด-19 และใช้เวลารักษาตัวประมาณ 4-5 วัน ดังนั้นการรายงานผู้ติดเชื้อมี 2 ส่วน คือ ผู้ที่ขึ้นทะเบียนเข้าสู่ระบบ มียอด 2,000 - 3,000 รายต่อวัน และที่เหลืออยู่ในส่วนของ ATK ที่รักษาตัวที่บ้าน
ส่วนเรื่องของการครองเตียงที่เริ่มมีข้อกังวลว่าจะไม่เพียงพอนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ได้ให้ไปติดตามแล้ว ซึ่งสถิติการครองเตียง หากเป็นโรงพยาบาลรัฐจะสามารถส่งต่อได้ แต่หากเป็นโรงพยาบาลเอกชน บางครั้งอาจจะเต็ม เนื่องจากรับผู้ป่วยโรคอื่นๆด้วย ซึ่งขณะนี้สถานการณ์เริ่มเปลี่ยน แต่ยืนยันว่าได้เตรียมการไว้พร้อม หากไม่เพียงพอ ยังสามารถจัดตั้งโรงพยาบาลสนามได้
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า สิ่งสำคัญที่สุด คือการฉีดวัคซีน ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจไปเข้ารับการฉีดวัคซีน เหมือนที่ตนเองฉีดมาแล้ว 5 เข็ม ก็ยังไม่เป็นอะไร แต่ทั้งนี้ก็ต้องระมัดระวังและป้องกันตนเองอย่างเต็มที่ ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง และการฉีดแอลกอฮอล์
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ขอให้ดูตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ขณะนี้อยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำอย่างมีนัยสำคัญประมาณ 20 รายต่อวัน ซึ่งแสดงว่าสามารถควบคุมได้ และพบว่าส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน หรือฉีดไม่ครบ และเป็นกลุ่ม 608 ดังนั้นจึงขอเตือนกลุ่มนี้ และกลุ่มเด็กนักเรียนให้ฉีดวัคซีนเพื่อตนเองและครอบครัว