นายรัฐมนตรี ย้ำฯ ขอให้เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันบริเวณสายหลักต่าง ๆ พร้อมกับเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาตรน้ำสูง กว่าเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำกักเก็บสูงสุดและอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีปริมาตรน้ำมากกว่า 80% และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำพื้นที่ภาคเหนือ ได้แก่จังหวัดเชียงใหม่ น่าน และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดเลย บึงกาฬ ขอนแก่น นครราชสีมา และบุรีรัมย์ ภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดสระแก้ว และตราด
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสม และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำให้ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและความสามารถในการใช้งานของอ่างเก็บน้ำ อาคารบังคับน้ำ รวมทั้งให้ติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำ ต่าง ๆ ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญให้กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างสม่ำเสมอ พร้อมเร่งระบายน้ำในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังอยู่เดิม เพื่อเตรียมพร้อมรับน้ำหลากและป้องกันน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นอีก ขอให้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีด้วย