มินีแบ โปรยยาหอมพร้อมขยายลงทุนในไทยเพิ่ม ชูเป็นฐานการผลิตใหญ่สุด

ข่าวทั่วไป Monday July 25, 2022 14:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

มินีแบ โปรยยาหอมพร้อมขยายลงทุนในไทยเพิ่ม ชูเป็นฐานการผลิตใหญ่สุด

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายไคนูมะ โยชิฮิสะ (Mr. KAINUMA Yoshihisa) ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทมินีแบมิตซูมิ (MinebeaMitsumi Inc.) ประเทศญี่ปุ่น เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย

ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทมินีแบมิตซูมิ แสดงความขอบคุณการสนับสนุนของรัฐบาลไทย ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้บริษัทฯ สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ชื่นชมโครงการ Factory Sandbox และนโยบายสนับสนุนการลงทุนของนายกรัฐมนตรี และได้มีการขยายการลงทุนในไทยมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมยืนยันว่า บริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับประเทศไทยเป็นอันดับแรก ในฐานะที่เป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของทางบริษัทฯ และบริษัทฯ พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรากฐานการส่งออกที่มั่นคง ผ่านความร่วมมือกับประเทศไทย

มินีแบ โปรยยาหอมพร้อมขยายลงทุนในไทยเพิ่ม ชูเป็นฐานการผลิตใหญ่สุด

โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นเรื่องพลังงานสะอาด ซึ่งรัฐบาลไทยให้ความสำคัญ และต้องการส่งเสริมให้บริษัทต่าง ๆ เน้นการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีชื่นชมและยินดีที่บริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องพลังงานสะอาด โดยมีแผนงานต่าง ๆ ที่จะดำเนินการเรื่องพลังงานสะอาดในหลายส่วนทั้งภายในโรงงาน และมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนายกรัฐมนตรีพร้อมหารือเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานสะอาดระหว่างกัน ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของประเทศไทยในการแก้ปัญหาโลกร้อน และเป้าหมายในการลดก๊าซเรือนกระจกของไทย

ด้านประธานฯ กลุ่มมินีแบมิตซูมิ กล่าวว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม โดยมียุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง และมีการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ โดยเฉพาะโคมไฟสำหรับเสาไฟถนนพร้อมระบบควบคุมอัจฉริยะ ซึ่งขณะนี้ได้มีการร่วมมือกับหน่วยงานราชการของไทยไปบ้างแล้ว

อย่างไรก็ดี ประธานฯ เห็นว่าทั้งสองฝ่ายควรเพิ่มพูนความร่วมมือในด้านพลังงานสะอาดระหว่างกันมากขึ้น เพื่อการบรรลุเป้าหมายการเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งไทยและญี่ปุ่นได้ตั้งเป้าหมายร่วมกันไว้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาหากรอบความร่วมมือและดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบข้อกฎหมาย โดยยึดผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นหลัก

นอกจากนี้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีความท้าทายต่าง ๆ มากมายในระดับโลก นายกรัฐมนตรีประสงค์ให้ภาคธุรกิจญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับห่วงโซ่การผลิตในประเทศไทย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เช่น การขาดแคลนชิ้นส่วนสำคัญ เป็นต้น โดยนายกรัฐมนตรีขอให้ทางบริษัทฯ พิจารณาลงทุนในไทยเพิ่มเติม โดยเฉพาะในด้านเซมิคอนดักเตอร์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า และสำหรับระบบเมืองอัจฉริยะ Eco System และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้หารือกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เพื่อจัดตั้งสถาบัน KOSEN ในไทยเพิ่มเติมด้วยแล้ว และหวังว่าจะมีความร่วมมือกับบริษัทฯ ในการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีแก่แรงงานไทย โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีชื่นชมนักลงทุนญี่ปุ่นที่ลงทุนในประเทศไทยอย่างมีความรับผิดชอบในช่วงที่ผ่านมา และไม่ทอดทิ้งกัน ทำให้สามารถดำรงการค้าการลงทุนระหว่างกันมาเป็นระยะเวลายาวนาน โดยนายกรัฐมนตรีหวังว่าจะมีการขยายการลงทุนในไทยเพิ่มเติมมากขึ้นในอนาคต

โดยการหารือครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ย้ำความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับญี่ปุ่นที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 135 ปี รวมถึงมีความร่วมมือเชิงหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่รอบด้าน พร้อมทั้งขอบคุณบริษัทฯ ที่ให้ความมั่นใจลงทุนในประเทศไทยมาเป็นระยะเวลายาวนาน ทำให้เกิดการจ้างงานเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันทราบว่าบริษัทฯ มีโครงการที่จะลงทุนในไทยเพิ่มเติมอีก ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ