น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบการเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ประกอบด้วย การเพิ่มงบประมาณรายจ่ายรวมวงเงินทั้งสิ้น 119,199.41 ล้านบาท และการเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วงเงิน 4,092.17 ล้านบาท พร้อมกับมอบหมายให้สำนักงบประมาณ นำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
สำหรับการปรับเพิ่มงบประมาณรายจ่ายนั้น ประกอบด้วย 1) รายจ่ายที่ต้องดำเนินการตามข้อผูกพันหรือค่าใช้จ่ายตามสิทธิที่เกิดจากฎหมาย สัญญา ข้อตกลงระหว่างประเทศ รวมถึงค่าใช้จ่ายเพื่อการชำระหนี้ วงเงิน 26,862.25ล้านบาทและ2) รายจ่ายเพื่อการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รายจ่ายเพื่อป้องกันหรือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน หรือในการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 วงเงิน 92,337.16 ล้านบาท
ทั้งนี้ สำนักงบประมาณ ได้พิจารณาแล้วว่าวงเงินงบประมาณที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว เป็นไปตามแนวทาง หลักเกณฑ์ แผนและขั้นตอนที่ ครม.ได้เห็นชอบเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 65 ที่กำหนดให้หน่วยรับงบประมาณเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายเฉพาะรายการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนอย่างแท้จริง สอดคล้องกับสถานการณ์ของประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (ร่าง)แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (ร่าง) นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ แผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) และนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ต้องดำเนินภายในปี 2566
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่าการขอปรับเพิ่มงบประมาณรายจ่าย จำแนกตามกระทรวง ได้ดังนี้ 1)งบกลาง 58,075 ล้านบาท 2)สำนักนายกรัฐมนตรี 217.49 ล้านบาท 3)กระทรวงกลาโหม 108.35 ล้านบาท 4)กระทรวงการคลัง 6,196.57 ล้านบาท 5)กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 38 ล้านบาท 6)กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 520.26 ล้านบาท 7)กระทรวงอุดมศึกษาฯ 18.59 ล้านบาท 8)กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 6,516.54 ล้านบาท 9)กระทรวงคมนาคม 4,413.65 ล้านบาท 10)กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 1,368.32 ล้านบาท
11)กระทรวงมหาดไทย 1,278.50 ล้านบาท 12)กระทรวงยุติธรรม 179.67 ล้านบาท 13)กระทรวงแรงงาน 15,455.76 ล้านบาท 14)กระทรวงวัฒนธรรม 61.88 ล้านบาท 15)กระทรวงศึกษาธิการ 2,600.54 ล้านบาท 16)กระทรวงสาธารณสุข 969.62 ล้านบาท 17)ส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงหรือทบวงและหน่วยงานภายใต้การควบคุมของนายกรัฐมนตรี 648.39 ล้านบาท 18)รัฐวิสาหกิจ 1,596.16 ล้านบาท 19) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 4,266.35 ล้านบาท และ 20)ทุนหมุนเวียน 14,669.68 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ ครม. ได้เห็นชอบการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2565 ครั้งที่ 3 โดยอนุมัติการปรับแผนการก่อหนี้ใหม่เพิ่มขึ้นสุทธิ 14,177 ล้านบาท จากเดิม 1,415,103.57 ล้านบาทเป็น 1,429,280.57 ล้านบาทแผนบริหารหนี้เดิมปรับเพิ่มขึ้นสุทธิ 1,500 ล้านบาท จากเดิม 1,501,163.56 ล้านบาท เป็น 1,502,663.56 ล้านบาท และแผนการชำระหนี้ปรับเพิ่มขึ้นสุทธิ 20,835.80 ล้านบาท จากเดิม 363,269.01 ล้านบาท เป็น 384,104.81 ล้านบาท และเห็นควรให้หน่วยงานที่บรรจุกรอบวงเงินกู้ภายใต้แผนบริหารหนี้สาธารณะที่ปรับปรุง ครั้งที่ 3 เร่งรัดการดำเนินการตามแผนดังกล่าวต่อไป