นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ว่า ได้กำชับให้สำนักงานเขตพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 17 เขต ประกอบด้วย 1.เขตบางซื่อ 2.เขตดุสิต 3.เขตพระนคร 4.เขตสัมพันธวงศ์ 5.เขตบางรัก 6.เขตสาทร 7.เขตบางคอแหลม 8.เขตยานนาวา 9.เขตคลองเตย 10.เขตพระโขนง 11.เขตบางนา 12.เขตบางพลัด 13.เขตบางกอกน้อย 14.เขตธนบุรี 15.เขตคลองสาน 16.ราษฎร์บูรณะ และ 17.เขตบางกอกใหญ่ เฝ้าระวังจุดอ่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา เสริมกระสอบทรายบริเวณจุดฟันหลอ ทั้งในจุดที่ยังก่อสร้างเขื่อนถาวรไม่แล้วเสร็จ และบริเวณแนวที่รั่วซึม
"ขณะนี้ ทุกสำนักงานเขตได้วางกระสอบทรายเสร็จแล้ว คงเหลือบริเวณจุดฟันหลอชุมชนศาลเจ้า เขตสัมพันธวงศ์ ขอให้เสร็จสิ้นงานเทกระจาดก่อน จะเร่งวางกระสอบทรายให้แล้วเสร็จ" ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว
นอกจากนี้ ยังให้เร่งจัดเก็บผักตบชวาเปิดทางน้ำไหล ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมเพื่อเร่งสูบน้ำออกกรณีเกิดการท่วมขัง และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เช่น ทำสะพานไม้ชั่วคราว จัดเทศกิจช่วยบริการช่วยเหลือให้เกิดทางเข้าออกในชุมชน โดยให้ประสานขอกำลังสนับสนุนพร้อมเครื่องมืออุปกรณ์จากสำนักการระบายหากจำเป็น
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ปัญหาขณะนี้คือศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม กทม. มีข้อมูลเฉพาะเส้นเลือดใหญ่ คือ ระบบระบายน้ำหลัก แต่ยังขาดข้อมูลเส้นเลือดฝอยในตรอก ซอย ชุมชนต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่เขต ทำให้ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงทีและทั่วถึง
"แม้ว่าบนถนนหลักน้ำจะแห้งแล้ว ในซอยก็ยังต้องใช้เวลาหลังจากนั้น แม้จะเพียงแค่ 30 นาที ก็ทำให้คนที่ต้องรอและได้รับผลกระทบรู้สึกไม่ดี เขตจึงต้องลงพื้นที่เพื่อรับทราบปัญหา และพร้อมจะให้ความช่วยเหลือให้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ประสานเจ้าหน้าที่เทศกิจ และทหาร ซึ่งพร้อมจะให้ความช่วยเหลือ โดยขอให้เขตข้างเคียงอื่นๆ ที่น้ำไม่ท่วมมาระดมช่วยเขตที่น้ำท่วมด้วย" นายชัชชาติ ระบุ
ทั้งนี้ สำนักการระบายน้ำรายงานว่า กรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์อากาศในช่วงเดือน ส.ค.65 จะมีฝนตกต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงวันที่ 6-8 ส.ค.นี้จะมีฝนตก 60-80% ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีปริมาณฝนสะสม 200-250 มิลลิเมตร ซึ่งขณะนี้มีปริมาณฝนสะสมอยู่ที่ 99 มิลลิเมตร และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น เนื่องจากจะมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอันเนื่องมาจากน้ำฝน น้ำเหนือ และน้ำทะเลหนุนอย่างใกล้ชิด
ขณะนี้ สำนักการระบายน้ำ ร่วมกับสำนักการวางผังและพัฒนาเมือง ได้จัดทำแอปพลิเคชันสำหรับให้แต่ละสำนักงานเขตใช้กรอกข้อมูลพื้นที่เสี่ยงและจุดอ่อนน้ำท่วมในพื้นที่ เพื่อเป็นฐานข้อมูลและติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ รวมทั้งการดำเนินการแก้ไขปัญหา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาปรับปรุง คาดว่าจะสามารถให้สำนักงานเขตเริ่มทดลองใช้ภายในสัปดาห์นี้
ด้านการประชาสัมพันธ์ สำนักงานประชาสัมพันธ์แจ้งแนวทางการประชาสัมพันธ์ว่า มีรายงานสถานการณ์ฝน โดยนำข้อมูลพยากรณ์อากาศกรมอุตุนิยมวิทยาเป็นการให้ข้อมูลคาดการณ์และแจ้งเตือน และรายงานการคาดการณ์ฝนจากข้อมูลเรดาร์ของสำนักการระบายน้ำ ผ่านทางสื่อออนไลน์ของ กทม. เช่น Facebook, Twitter "กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์" และเพิ่มความถี่ในการรายงานข้อมูลในช่วงที่มีฝนตก พร้อมทั้งนำข้อมูลและภาพการทำงานของสำนักการระบาย การให้แก้ไขปัญหาและช่วยเหลือประชาชนของเขตพื้นที่ หน่วยงานสนับสนุน เช่น เทศกิจ ทหาร
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุความเดือดร้อน และขอความช่วยเหลือ ผ่าน Traffy foundue ศูนย์ฯ ป้องกันน้ำท่วม 02 248 5115 และ สายด่วน กทม. 1555