รายงานซึ่งเสนอต่อเลขาธิการองค์การสหประชาชาติเตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อเอดส์รายใหม่ในเอเชียอาจพุ่งขึ้นสูงถึง 8 ล้านคน ภายในปี 2563 หากประเทศในแถบเอเชียไม่สามารถหามาตราการที่ดีกว่านี้ในการต่อสู้กับการระบาดของไวรัสเอดส์
คณะกรรมการอิสระว่าด้วยโรคเอดส์ในเอเชีย ได้นำเสนอรายงานเรื่อง “การนิยามโรคเอดส์ในเอเชียขึ้นใหม่ ด้วยการหาวิธีแก้ไขที่มีประสิทธิภาพ" ต่อนายบัน กี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ
โดยคณะกรรมการฯ ได้เสนอว่าการใช้งบประมาณเพียงแค่ 0.3 ดอลลาร์สหรัฐต่อประชากร 1 คน ต่อ 1 ปี สำหรับโครงการป้องกันโรคเอดส์ จะสามารถพลิกผันสถานการณ์การระบาดของโรคได้ นอกจากนี้ยังได้เรียกร้องให้มีการจัดตั้งสถาบันพิเศษเพื่อพิจารณาหามาตราการในการต่อสู้กับโรคเอดส์และรณรงค์การใช้ถุงยางอนามัยให้ครอบคลุมในวงกว้าง
คณะกรรมการฯ ระบุว่า สาเหตุใหญ่ของการติดเชื้อเอดส์ในเอเชียเกิดจากกลุ่มผู้ใช้แรงงาน กลุ่มผู้เสพยาเสพติด กลุ่มชายรักร่วมเพศ และ กลุ่มคนข้ามเพศ
นายบันกล่าวในแถลงการณ์ว่า “ ผมอยากให้รัฐบาลเอเชียแก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัยเพราะเป็นส่วนที่บกพร่องที่สุด และใช้ทุกมาตราการที่จำเป็นเพื่อยืนยันว่ารัฐบาลจริงจัง"
“ด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำของคณะกรรมการ ประเทศในแถบเอเชียจะสามารถหลีกเลี่ยงการติดเชื้อและการตายจากโรคเอดส์เป็นจำนวนมาก ป้องกันความเสียหายทางเศรษฐกิจ และช่วยเหลือประชาชนให้พ้นจากความยากจน" นายบันกล่าวเพิ่มเติมว่า “ความเป็นผู้นำดังกล่าวเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเอเชียในตอนนี้"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า มีผู้ป่วยโรคเอดส์เกือบ 5 ล้านคนในเอเชีย และมีผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์โดยเฉลี่ยปีละ 440,000 ราย โดยในปี 2550 มีผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์ประมาณ 300,000 ราย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--