รายงานข่าวจากกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ปรับการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ไปจนถึงอัตรา 1,550 ลบ.ม./วินาที เริ่มตั้งแต่วันนี้ (24 ส.ค.) เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป เพื่อรองรับน้ำเหนือไหลหลากที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น พร้อมทั้งเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งอาจส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นจากระดับปัจจุบันประมาณ 0.10 เมตร ได้แก่บริเวณชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ดังนี้ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง, คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา, ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย)
สำหรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ปัจจุบัน (24 สิงหาคม 2565) เวลา 06.00 น. ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีน้ำไหลผ่าน 1,558 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 1,582 ลบ.ม./วินาที) ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 4.37 เมตร ควบคุมการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาที่สถานี C.13 อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ในอัตราประมาณ 1,500 ลบ.ม./วินาที (เท่ากับวานนี้ 1,500 ลบ.ม./วินาที) ทั้งนี้ มีฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนบริเวณจังหวัดแพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ จะส่งผลทำให้แม่น้ำยม แม่น้ำน่าน และลำน้ำสาขาไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น
กรมชลประทาน จะบริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝน-น้ำท่า อย่างเต็มศักยภาพ โดยคำนึงถึงพื้นที่ลุ่มต่ำให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรแล้วเสร็จ พร้อมทั้งเน้นย้ำโครงการชลประทานในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง เตรียมรับมือน้ำทะเลหนุนสูงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ระหว่างวันที่ 24 - 29 สิงหาคม 2565 นี้ จึงขอให้ประชาชนเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด