น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พ.ร.บ.พืชกระท่อม พ.ศ.2565 มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันนี้ โดย กฎหมายให้นิยามใบกระท่อมหมายความถึงใบของพืชกระท่อม และให้รวมถึงน้ำต้มใบของพืชกระท่อมและสารสกัดที่ได้จากใบของพืชกระท่อม และสาระสำคัญของกฎหมายดังกล่าวครอบคลุมการขออนุญาต การนำเข้าส่งออกใบกระท่อม การพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาต การคุ้มครองบุคคลซึ่งอาจไดร้บอันตรายจากการบริโภคใบกระท่อม การป้องกันการใช้ใบกระท่อมในทางที่ผิด และบทกำหนดโทษ จึงขอให้ประชาชนศึกษากฎหมายให้ดี เพื่อการใช้พืชกระท่อมให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ตัวอย่างบางมาตราใน พ.ร.บ.ที่น่าสนใจ ได้แก่
มาตรา 3 การใช้ใบกระท่อมเป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์สมุนไพรตามกฎหมายว่าด้วยผลิตภัณฑ์สมุนไพรยาตามกฎหมายว่าด้วยยา อาหารตามกฎหมายว่าด้วยอาหาร เครื่องสำอางตามกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์อื่นใดตามที่มีกฎหมายเฉพาะบัญญัติไว้ รวมถึงการนำเข้า การส่งออก การขาย และการโฆษณา ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น เว้นแต่กรณีที่บัญญัติไว้ในหมวด 5 การคุ้มครองบุคคลซึ่งอาจได้รับอันตรายจากการบริโภคใบกระท่อมและการป้องกันการใช้ใบกระท่อมในทางที่ผิด
มาตรา 10 ผู้ใดประสงค์จะนำเข้าหรือส่งออกใบกระท่อมต้องได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต ซึ่งหมายถึง เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือผู้ซึ่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดมอบหมาย
มาตรา24 ห้ามผู้ใดขายใบกระท่อมหรืออาหารตามกฎหมายว่าด้วยอาหารที่มีใบกระท่อมเป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบแก่บุคคล ดังต่อไปนี้
1.บุคคลซึ่งมีอายุต่ากว่าสิบแปดปี
2.สตรีมีครรภ์
3.สตรีให้นมบุตร
4.บุคคลอื่นใดตามที่ รมว.ยุติธรรม และ รมว.สาธารณสุข ร่วมกันประกาศกำหนด
มาตรา 25 ห้ามผู้ใดขายใบกระท่อมในสถานที่โดยวิธีการหรือในลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้
1.สถานศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
2.หอพักตามกฎหมายว่าด้วยหอพัก
3.สวนสาธารณะ สวนสัตว์ และสวนสนุก
4.ขายโดยใช้เครื่องขาย
5.ขายในสถานที่โดยวิธีการหรือในลักษณะอื่นใดตามที่ รมว.ยุติธรรม และ รมว.สาธารณสุข ร่วมกันประกาศกำหนด
มาตรา 26 ห้ามผู้ใดโฆษณาหรือทำการสื่อสารการตลาดใบกระท่อม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจูงใจสาธารณชนให้บริโภคใบกระท่อมที่ปรุงหรือผสมกับยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ยาตามกฎหมายว่าด้วยยา วัตถุอันตรายตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย หรือวัตถุอื่นใดตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 27
มาตรา 33 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 24 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสามหมื่นบาท
มาตรา 34 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 25 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท
น.ส.รัชดา กล่าวว่า กฏหมายยังกำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนประชาชนในการเพาะปลูก หรือแปรรูปพืชกระท่อม เพื่อใช้ตามวิถีชุมชน และในการพัฒนาให้เป็นพืชที่มีมูลค่าในทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาทั้งการเพาะปลูกและแปรรูป หรือการพัฒนาสายพันธุ์ของพืชกระท่อม การผลิต การจัดการ และการตลาดด้วย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้พืชกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจ ผลักดันให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มจากการใช้พืชกระท่อมในทางการแพทย์ และสร้างรายได้แก่เกษตรกร ขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ทำการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตและขยายกระท่อมพันธุ์ดี แจกจ่ายแก่เกษตรกรหลายแสนต้นไปแล้ว เพื่อให้ปลูกเป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้านในครัวเรือน และสามารถนำไปพัฒนาอาชีพเป็นพืชทางเลือกในอนาคต
"ขอให้ประชาชนศึกษากฏหมายเพื่อให้การใช้พืชกระท่อมเกิดประโยชน์สูงสุดทั้งทางการแพทย์และทางเศรษฐกิจ โดยไม่เสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย" น.ส.รัชดา กล่าว